เรื่องย่อละคร ภูตแม่น้ำโขง | ละครช่อง 7 จุ๋ย เวียร์

บัวผัน(วรัทยา นิลคูหา) หญิงสาวชาวบ้านพบไข่ประหลาดฟองโตสีขาวนวลกลิ้งอยู่บนพืนทราย ริมแม่น้ำโขง จึงเก็บไข่ฟองนั้นกลับบ้าน โดยไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้กินไข่ประหลาดนั้น เมื่อทองมี(ปัทมาภรณ์ รัตนภักดี)เพื่อนรักแวะมาหาที่บ้านจึงชวนกินไข่ประหลาดด้วยกัน แต่ทองมีไม่กินเพราะกินข้าวมาแล้ว บัวผันจึงกินคนเดียวจนหมดฟอง และเกิดอาการท้องร้อนวูบวาบ บัวผันบอกทองมีว่าจะต้องไปดื่มน้ำในลำน้ำโขงจึงหาย ทองมีตกใจจึงตะโกนร้องให้คนช่วย
ทิดเคน(กฤษฏี พวงประยงค์)หนุ่มชาวบ้านกระโดดล็อกตัวไว้แต่บัวผันก็สะบัดหลุดออกอย่างง่ายดาย ทุกคนลงความเห็นว่าผีเข้าบัวผันแน่ เฒ่าเชียงหล้า(แรม วรธรรม)จึงรีบขอขมาผู้สิงร่างบัวผัน แต่ผู้สิงร่างไม่ยอมแล้วก็ลุยน้ำออกไปกลางลำน้ำโขง ทิดเคนกระโจนลงไปช่วย ทั้ง2จมลงไปใต้น้ำด้วยกัน
ทันใดนั้นก็เกิดก้อนสีดำขนาดใหญ่ลอยมาและเปลี่ยนเป็นฝูงผีเสื้อนับล้านตัว ไม่พอเท่านั้นยังมีฝูงคางคกนับล้านตัวว่ายน้ำอยู่ในลำน้ำโขงจนมืดสนิท เหมือนจะเกิดอาเพศ ทองมีกรีดร้องด้วยความดีใจที่เห็นบัวผันโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ และตะโกนเรียกให้กลับเข้าฝั่ง แต่บัวผันไม่กลับค่อยๆจมหายไป
อีกด้านหนึ่ง นายแพทย์อัคนี(ศุกลวัฒน์ คณารศ)ผู้เชี่ยวชาญและศึกษาวิชาจิตเวชศาสตร์ กำลังนั่งขัดสมาธิบนเรือกลางลำน้ำโขง กับสมัย อ่อนสา(ชูศรี เชิญยิ้ม)เพื่อพิสูจน์สิ่งลี้ลับ แต่อยู่ๆ สมัยก็หมดสติ ลุงจันดี(นึกคิด บุญทอง)คนพายเรือจึงตะโกนเรียกหมออัคนีแต่ก็นิ่งเฉยเหมือนไม่ได้ยิน แล้วลุงจันดีก็ร้องโวยวายออกมาด้วยความตกใจว่าเห็นผี และพยายามรีบพายเรือหนี แต่กลับเห็นเรือลำหนึ่งลอยมาใกล้ๆ ซึ่งในเรือมีหญิงสาวสวยชื่อบัวผัน ชวนให้ลุงจันดีลงเรือของเธอ เมื่อแกถูกตัวบัวผันก็รู้สึกถึงความเยียบเย็นแล้วร่างบัวผันก็กลายเป็นโครงกระดูก ซึ่งเป็นภาพนิมิตรของเจ้าแม่ทอหูก(มรกต กิตติสาระ)ลุงจันดีจึงรีบกราบขอขมาลาโทษที่ได้ล่วงเกินและขอให้เจ้าแม่ไว้ชีวิต

ส่วนบัวผันที่จมน้ำได้ 9 วันแต่ยังไม่พบศพ นางบุญเรือน(ขวัญฤดี กลมกล่อม)ผู้เป็นแม่และชาวบ้านและจึงให้คนทรงตรวจดู ซึ่งหมออัคนีก็มาร่วมพิธีด้วย คนทรงบอกว่าอีก3วันบัวผันจะกลับมา

นายแพทย์อุ่นเงิน(อภิชาต วงศ์กาวี)เพื่อนรักของหมออัคนีแต่งงานกับเจ้านางโคมคำ(อุษณีย์ วัฒฐานะ)ซึ่งเดิมเป็นคู่หมั้นของหมออัคนี มาขอพบหมออัคนีแต่หมออัคนีไม่อยากพบ เพราะไม่อยากเจอเจ้านางโคมคำ ซึ่งอุ่นเงินไม่ได้พามาด้วยแต่กลับพาเจ้าวรวงศ์(ภุชิสสะ ธนพัฒน์)พี่ชายของเจ้านางมาแทน

อุ่นเงินบอกกับหมออัคนีว่าพระธาตุขุนหลวงซึ่งเป็นพระธาตุประจำตระกูลของหมออัคนีพังแล้ว หมออัคนีจึงให้บูรณะปฏิสังขรณ์พระธาตุขึ้นใหม่ ซึ่งภายในพระธาตุมีของมีค่ามากโดยเฉพาะบุษบกทองคำประดับเพชรและผอบซ้อนกัน 5 ชั้นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ

หมออัคนีตัดสินใจเดินทางไปดู แต่ระหว่างการเดินทางถูกลอบวางยาพิษจากอุ่นเงินและเจ้าวรวงศ์ แต่หมออัคนีไหวตัวทันอมรางจืดยาแก้พิษเอาไว้ ทั้งสองคนไม่รู้ นำร่างหมออัคนีใส่กระสอบถ่วงน้ำ หมออัคนีใช้มีดพับตัดกระสอบและว่ายฝ่าสายน้ำที่เย็นขึ้นสู่ผิวน้ำ แต่น้ำก็พัดจมลงอีก คราวนี้หมออัคนีไปพบกับพญาจันหัวจระเข้ ที่เป็นบริวารของเจ้าแม่ทอหูก จึงถูกนำตัวไปขังไว้ในคุก
พญาหนองหารหลวง(ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล)ล่วงรู้เข้าจึงสั่งให้ อสุรกายนฤจักษ์ กับ นางมลินมุขี เข้าไปชิงตัวหมออัคนีมา ทั้ง2แปลงร่างเป็นพายุลมดำ หอบหมออัคนีไปให้พญาหนองหารหลวง แล้วสั่งต้มหมออัคนี หมออัคนีไม่เห็นทางรอดจึงกำหนดปณิธาณขอให้ดวงจิตสะอาดบริสุทธิ์ พอจบคำอธิฐานลมหนาวแห่งความตายก็พัดมา ก็เกิดแสงสว่างสีทองพันรอบตัวแล้วดึงลอยไปในอากาศ มารู้สึกตัวอีกครั้งว่าตัวเองกำลังว่ายน้ำอยู่ในความมืด แต่ชั่วแวบเดียวก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นสาวงามแต่งกายชุดสาวพื้นเมืองเดินเข้ามาหาและชวนให้ไปพักผ่อนที่บ้านหมออัคนีปฏิเสธเธอบอกว่าชื่อบัวผัน ทำให้นึกถึงหญิงสาวที่จมแม่น้ำโขงหายไปหลังจากนั้นก็มุ่งหน้าเดินเข้าไปในเมือง

ระหว่างทางก็เจอกับผีโครงกระดูกและสุนัขผีดำ แต่ก็รอดมาได้ ในที่สุดก็มาถึงที่พัก นางบุญเรือนยังโศกเศร้าคิดถึงบัวผันและยิ่งเศร้าเมื่อหลวงพ่อจูม(พงษ์ประยูร ราชอาภัย)อดีตสามีไปออกธุดงค์โดยไม่บอก แต่แล้วในที่สุดบัวผันก็กลับมา แต่ก็มีนางปิศาจตามมาส่งและมาหลอกหลอนเข้าสิงชาวบ้าน หมออัคนีรู้เรื่องบัวผันกลับมา จึงไปหาเพราะมั่นใจว่าบัวผันคือคนที่ช่วยชีวิตจากการจมน้ำ แต่บัวผันจำอัคนีไม่ได้ ไ ม่ทันที่จะถามต่อลุงเสาร์ก็วิ่งมาถามหา บอกว่าบัวผันเป็นคนฆ่าลุงงึมตาย และจะนำตัวไปเผาไฟ ซึ่งหมออัคนีพยายามที่จะช่วย โดยการขอตรวจศพลุงงึมก่อน ทันใดนั้นก็มีแมวดำกระโดดข้ามศพของลุงงึม จนฟื้นขึ้นมา

กำนันเล้ง(กลศ อัทธเสรี)กับเวียนแล(ปริษา ธนาวิวัฒน์)ตั้งใจจะมางานศพลุงงึมแต่มาเจอหมออัคนี จึงตกใจมากนึกว่าโดนผีหลอก เพราะเจ้าวรวงศ์บอกว่าหมออัคนีตายแล้ว กำนันเล้งข้องใจจึงเรียกสารวัตรกองตามาปรึกษา แล้วรีบแจ้งข่าวกับเจ้าวรวงศ์และหมออุ่นเงินทั้ง2ตกใจกลัวความผิด กำนันเล้งจึงรับปากจะไม่บอกว่าอุ่นเงินกับเจ้าวรวงศ์ระเบิดพระธาตุขุนหลวงเพราะก็กลัวความผิดที่ตนเองร่วมมือด้วย

หมออัคนีต้องการพิสูจน์ว่าบัวผันเป็นตัวจริงหรือเปล่า เลยตามไปในหมู่บ้านลับแลและก็ได้พูดคุยกัน มารู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่าตนเองอยู่ในป่าช้า จึงเดินทางกลับไปที่โรงแรมและได้รับจดหมายจากเจ้านางโคมคำฝากไว้เพื่อขอพบ หมออัคนีไปเจอเจ้านางโคมคำเพื่อที่จะสอบถามรายละเอียดต่างๆ

หลังจากนั้นหนานหล้า(ทองขาว ภัทรโชคชัย)เอาจดหมายที่มีข้อควมสั้นๆจากสัปเหร่อหนูที่มีข่าวด่วนให้มาพบที่ป่าช้า

หมออัคนีสงสัยว่าเจ้าแม่ทอหูกมีปัญหาอะไรกับเขา เจ้าแม่ทอหูกไปจับตัวเจ้านางโคมคำมาเป็นตัวประกัน และสั่งให้หนานหล้าไปบอกหมออัคนีให้มาพบ ไม่งั้นเจ้านางโคมคำตาย หนานหล้าพาไหมสี(สิชา ศรีทองสุข)ไปหาหมออัคนี เพื่อบอกความจริงทั้งหมด แล้วก็ขอร้องให้บัวผันช่วยพาไปหาเจ้าแม่ทอหูก ซึ่งเจ้าแม่ทอหูกสิงร่างบัวผันอยู่แล้วสบโอกาสจึงพาลงไปเมืองบาดาล แล้วมาพบกับพ่อปู่ฤษี พ่อปู่ให้หมออัคนีถอดแหวนปะการังออก

แต่หมออัคนีไม่ถอดเพราะพระภิกษุให้สวมไว้ที่นิ้วกลางข้างซ้ายตลอดชีวิต เจ้าแม่ทอหูกในร่างบัวผันก็ช่วยเสริมแกมบังคับ หมออัคนีจึงยอมถอดและโยนทิ้งลงไปในสระน้ำไฟจึงลุกขึ้น พ่อปู่โกรธมากที่มาทำลายบ่อเพลิงกรดศักดิ์สิทธิ์ พ่อปู่จึงสั่งให้เจ้าแม่ทอหูกโยนหมออัคนีลงสระไฟกรด

หมออัคนีรู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่บัวผัน จึงดิ้นสุดแรงทำให้เจ้าแม่ทอหูกพลัดตกลงไปในสระไฟกรดแทน ซึ่งจริงๆแล้วคนที่ตายก็คือบัวผันนั่นเอง แต่สุดท้ายบัวผันก็ฟื้นขึ้นมาใหม่ เพราะหลวงพ่อจูมมาช่วยไว้ หลวงพ่อจูมปรากฏกายทิพย์ออกมาเพื่อช่วยทั้งหมดเอาไว้ได้สำเร็จ สุดท้ายเจ้าแม่ทอหูกก็ต้องไปเวรกรรมที่สร้างไว้กับผู้อื่น
หมออัคนีพาบัวผันกลับมาที่เมืองมนุษย์ ชาวบ้านรู้ความจริงทั้งหมดก็มั่นใจแล้วว่าเหตุการณ์ร้ายๆที่ผ่านมาไม่ใช่ฝีมือบัวผัน หมออัคนีกับบัวผันได้ครองรักกันสมกับที่รอคอยกันมานาน ขณะเดียวกันหมออุ่นเงินกับเจ้านางโคมคำก็ปรับความเข้าใจและครองรักกันเช่นกัน ส่วนเจ้าวรวงศ์ตัดสินใจออกบวชในที่สุด

รักเธอยอดรัก | ละคร ละครทีวี แพท ณปภา ปอ ทฤษฎี

รักเธอยอดรักออก

อากาศทุกวันศุกร์-อาทิตย์ เวลา 20.30 น.


อัมวิกา วัชราวัฒน์ (ณปภา ตันตระกูล) ได้รับข่าวร้ายจากการจากไปของน้องสาวคนเดียว อัปสร (วาสิตา วิเศษพันธ์) ทำให้การเหยียบย่างเข้าสู่บ้าน ‘วัชราวัฒน์’ ของเธอเป็นเหมือนการกระโดดลงสู่หุบเหวแห่งความโศกเศร้า ภาพในอดีตความอบอุ่นระหว่างอัมวิกาและอัปสรสาวน้อยผู้ร่าเริง กลายเป็นความเศร้าทำให้อัมวิกาสลัดความมุ่งหมาย ในชีวิตทั้งมวลที่เคยคิดว่าจะนำความรู้จากต่างแดนมาทำงานรับใช้แผ่นดิน เหลือเพียงงาน ‘งานชำระแค้น’ เพราะคำบอกเล่าของมารดาที่บอกกับเธอว่า ผู้ชายที่ทำให้อัปสรเสียใจจน ต้องฆ่าตัวตาย คือ สกรรจ์ ศานติวรรษ (ทฤษฎี สหวงษ์) ดังนั้นแผนการแก้แค้นของเธอจึงได้เริ่มขึ้น ด้วยเป้าหมายที่ชัดเจนคือการตอบโต้ให้ผู้ชายใจชั่วได้รู้ ฤทธิ์ของการ ‘ตายทั้งเป็น’

มิใยว่าวิญญาณของอัปสร จะเฝ้าวนเวียนมาเพื่อสื่อสารกับพี่สาวว่า กำลังแก้แค้นผิดตัว หากแต่พลังของวิญญาณก็ทำได้เพียงร้องไห้ เพราะบาปของการฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณ อัปสรมิอาจส่งเสียง ทำให้อัมวิกายิ่งเร่งไฟแค้นให้หนักขึ้นเพราะคิดว่าน้องสาวไม่ได้ไปผุดไปเกิดเพราะทนทุกข์ทรมานกับการกระทำของสกรรจ์ แต่แผนการณ์ของเธอก็ ต้องสะดุดลง เพราะผู้ชายที่เป็นเหยื่อแค้นของเธอ กลับกลายเป็นคนรักของ รังรอง (เบญจวรรณ อาร์ดเนอร์) เพื่อนรักเพียงหนึ่งเดียวของเธอเอง แผนการณ์จะเข้าใกล้สกรรจ์กลาย เป็นโจทย์ยาก

อัมวิกาแยกสกรรจ์ออกจากรังรองจนทำให้เธอเข้าใจผิดคิดว่าจะมาแย่งคนรัก แต่อัมวิกาก็เปลี่ยนแผนโดยแนะนำให้รังรองรู้จักกับพี่ชายของตัวเองคือ เอกชัย (นิธิ สมุทรโคจร) ซึ่งเขาก็ถูกใจรังรองตั้งแต่แรกพบ และเริ่มคบหาโดยไม่รู้ว่ากำลังเป็นหมากตัวหนึ่งของน้องสาว แต่กลับไม่ได้ผลเพราะสกรรจ์ไม่ได้มีท่าทีเสียใจกับ การที่รังรอง เปลี่ยนใจจากเขา ทำให้อัมวิกายิ่งชิงชังและเข้าใจผิดว่าเขาเป็นผู้ชายมักง่าย และยิ่งรังเกียจเมื่อเห็นเขาเปลี่ยนคู่ควงเป็น วิมาดา (พิมอักษิพร วินโกมินทร์)โดยไม่รู้ว่าสกรรจ์นั้น มิได้รักรังรองอย่างคู่รัก ส่วนวิมาดา ก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ คุณสายใจ (ธัญญา วชิรบรรจง) ผู้เป็นแม่จัดการให้เป็นคู่หมาย โดยแอบตกลงกับ คุณโสภา (ปนัดดา วงศ์ผู้ดี) แม่ของวิมาดาเงียบๆ

อัมวิกาได้พบกับ สกนธ์ ศานติวรรษ (วรินทร ปัญหกาญจน์) น้องชายของสกรรจ์ที่อัมวิการู้สึกว่า น่าจะง่ายกว่าถ้าจะลวงสกนธ์ให้ตกหลุมพรางที่เธอวางไว้ เพราะสกนธ์พอใจ เธอจนออกนอกหน้า เพื่อต้องการให้สกนธ์เป็นสะพานให้เธอเข้าถึงสกรรจ์ได้อย่างเนียนๆ โดยไม่รู้ว่าก่อนหน้าที่สกนธ์จะได้พบกับเธอ เขาเพิ่งจะสลัดรักจาก สุภาพรรณ (แอนเน็ท เธท) ลูกสาวคนเดียวของ คุณสุรีย์ (ชุดาภา จันทเขตต์) เพราะสุภาพรรณเกิดตั้งท้อง ผู้ชายไม้เลื้อยอย่างสกนธ์ จึงตัดปัญหาง่ายดายด้วยการบอกเลิกและสั่งให้สุภาพรรณไปทำแท้ง

สกรรจ์รู้ถึงความสนิทสนมของน้องชายกับอัมวิกา พยายามขัดขวางทุกอย่างเพราะไม่อยากให้มีผู้หญิงคนไหนต้องเสียใจเพราะน้องชายอีก แต่อัมวิกากลับ เข้าใจผิดว่าเป็นการหึงหวง และพี่น้องก็เริ่มทะเลาะกัน คุณสันติ (จักรกฤษณ์ อำมรัตน์) ผู้เป็นพ่อ เข้าข้างสกรรจ์สุดตัว ตรงข้ามกับคุณสายใจ ที่เข้าข้างลูกชายคนเล็ก สกรรจ์รู้สึกถึงความทุกข์ ที่เริ่มรุกเร้า เข้ามาในบ้าน เสียงพ่อแม่ทะเลาะกัน น้องชายที่สำมะเลเทเมา ด่าทอพี่ชายอย่างสิ้นความนับถือ ยิ่งเป็นความสาแก่ใจของอัมวิกา เธอยิ่งยั่วให้สกนธ์หลงรัก หัวปักหัวปำ แต่พอสกนธ์พูดเรื่องแต่งงาน อัมวิกาก็แกล้งบ่ายเบี่ยงอ้างว่าสกรรจ์ไม่ชอบหน้าเธอ ถ้าเธอต้องแต่งงานไปก็คงไม่มีความสุข สกนธ์ยิ่งโกรธพี่ชายสบโอกาสที่สกรรจ์ไปพบกับสุภาพรรณเพื่อขอโทษแทนน้อง และจะขอรับเป็นพ่อของเด็กในท้องแทน

สกนธ์รีบใช้จังหวะนี้ใส่ร้ายพี่ว่าทำผู้หญิงท้องแล้วไม่รับ ซ้ำยังบังคับให้สุภาพรรณไปทำแท้ง สุภาพรรณที่เสียใจจนขาดสติในตอนแรก ตัดสินใจจะกำจัดมารหัวขน แต่อัมวิกาที่คอยตามจับตาดูสุภาพรรณเพื่อหาความจริงเรื่องนี้เข้าห้ามและให้สติ ทำให้สุภาพรรณคิดได้ กลับไปบอกแม่และ อาจอง (กานต์ อรุณเรืองสวัสดิ์) พี่ชายว่าจะขอหนีความอับอายไปต่างประเทศเพื่อเรียนต่อ และคลอดลูกที่นั่นก่อนไป สุภาพรรณ ได้พูดจากับอัมวิกา เน้นว่า เธอไม่มีวันยกโทษให้ผู้ชายตระกูล ‘ศานติวรรษ’ เด็ดขาด คำพูดของสุภาพรรณยิ่งทำให้อัมวิกาชิงชังสกรรจ์มากขึ้นเป็นทวีคูณ ประกาศย้ำกับตัวเองว่าชาตินี้ ถึงจะต้องตายก็จะต้องจัดการให้สกรรจ์รู้สำนึกให้ได้!

สกนธ์ขอเข้ามาทำงานกับพี่ชาย ถึงจะยังไม่เชื่อใจน้องนักแต่สกรรจ์ก็ดีใจที่สุด แม้สกนธ์จะทำงานอย่างคนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ แต่สกรรจ์ก็ตั้งหน้าตั้งตาสนับสนุนน้อง เป็นพี่ชาย ที่แสนดีทุกอย่างและเริ่มคิดว่าอัมวิกาอาจเปลี่ยนสกนธ์ได้จริงๆ สกรรจ์เอ่ยชวนอัมวิกาเข้ามาทำงานในบริษัท อัมวิกาวางฟอร์มปฏิเสธตอนแรก แต่สุดท้ายก็รับปากสกรรจ์ไม่รู้ว่าทุกอย่างเป็นแผนของอัมวิกาที่ยุให้สกนธ์เข้ามาทำงานโดยใช้ความรักของสกนธ์เป็นเหยื่อล่อว่า ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากแต่งงานกับผู้ชายหลักลอยอย่างสกนธ์ ซ้ำยังเอ่ยชมสกรรจ์ว่าเป็นคนเก่ง เป็นผู้ชายที่ผู้หญิงน่าจะฝากชีวิตไว้เป็นที่สุด สกรรจ์เริ่มสงสัยอัมวิกาและต้องการค้นหาความจริงแต่กลายเป็นว่าเขากลับหลงรักหญิงสาวเข้า ให้แล้ว ส่วนอัมวิกา เมื่อมาเห็นอำนาจของสกรรจ์ที่กุมทุกอย่างไว้ในมือ เป้าหมายก็เริ่มขยายจากที่แค่คิดจะทำให้ผู้ชายตระกูลศานติวรรษต้องเจ็บปวดเรื่องความรักอัมวิกายังคิด ทำให้พวกศานติวรรษพบจุดจบที่ความสูญเสียสมบูรณ์แบบทั้งเรื่องหัวใจและธุรกิจ

ความแค้นของอัมวิกาเหมือนไฟที่ลามไหม้ และไม่มีใครมาทัดทานได้ ในขณะที่สกรรจ์แอบได้ยินความจริงจากปากรังรองที่พูดระบาย ความทุกข์ในใจกับเอกชัย เรื่องการแก้แค้น ของอัมวิกา ดังนั้นจึงขัดขวางการคบกันของสกนธ์กับอัมวิกา สกนธ์ขออัมวิกาแต่งงานแต่เธอบ่ายเบี่ยง ในขณะที่สายใจบังคับให้สกรรจ์แต่งงาน กับวิมาดา แต่เธอไม่ยอมและหนีไปจนพบอาจองโดยบังเอิญและแอบคบกันเงียบๆ สกรรจ์บอกอัมวิกาว่าเขารู้แผนการของเธอแล้วและให้เลิกเสียแต่อัมวิกาไม่ยอม สกรรจ์จึงจับตัวเธอไป สกนธ์ตามไปช่วยอัมวิกาถือโอกาสนี้บอกเขาว่าผู้ชายที่เธอรักคือสกรรจ์และยังโกหกว่าเป็นของสกรรจ์แล้ว ทำให้สกนธ์คุ้มคลั่ง และเห็นวิญญาณอัปสรตามมาเอาชีวิตจนกลาย เป็นคนจิตหลอนและควบคุมตัวเองไม่ได้ สุภาพรรณกลับเมืองไทยพร้อมลูกและขอบคุณอัมวิกาที่ทำให้เธอไม่คิดสั้น และเล่าเรื่องของเธอกับสกนธ์ให้ฟังทำ ให้อัมวิการู้ความจริงว่า เธอเข้าใจผิดและแก้แค้นคนผิดมาตลอด

สายใจมาขอร้องให้อัมวิกาแต่งงานกับสกนธ์เพราะสงสารลูก อัมวิกามาหาสกนธ์ที่บ้าน และตกใจกับสภาพเขาที่ไม่ต่างอะไรกับซากศพ สกนธ์ร้องโวยวายถึงแต่อัปสรว่าจะตามมาฆ่า ภาพมนุษย์ใจบาปที่หวาดกลัวทุกสิ่ง ร้องไห้ สลับคุ้มคลั่ง…น้ำตาแม่ที่รักลูกหลั่งรินแทบกลายเป็นสายเลือด…พี่ชายที่หน้าตาหมองคล้ำเพราะห่วงน้อง สงสารแม่…พ่อที่นิ่งเงียบ หากสีหน้าบ่งชัดว่าหัวใจกำลังร้องไห้…แทนที่จะเป็นความสาแก่ใจของอัมวิกา เธอกลับรู้สึกหดหู่และเศร้าสร้อย และยิ่งช้ำหนักเมื่อสุภาพรรณอุ้มลูกมาดูแลพ่ออัมวิกาเพิ่งเข้าใจ ชัดแจ้ง ตอนนี้เองว่า ‘สวรรค์ในอก นรกในใจ’ นั้นเป็นอย่างไร สกรรจ์ ทำหน้าที่พี่ชายที่แสนดีอีกครั้งด้วยการพยาบาลน้องชายใกล้ชิด สายใจที่ไม่เคยรักลูกชายคนโต เห็นความรัก น้องของสกรรจ์ ก็เสียใจ เข้าไปโอบกอดลูกเป็นครั้งแรก และขอโทษ สุภาพรรณเองก็คอยพาลูกมาหา

จนสกนธ์อาการดีขึ้น ยอมรับผิด และขอไป กราบขอขมาต่อสุรีย์กับความผิดทั้งหมด สกรรจ์เตือนสกนธ์ว่าอีกครอบครัวที่สกนธ์ควรไปกราบขอโทษคือ ครอบครัวของอัมวิกา สกนธ์กราบเท้าขอโทษบังอร และพูดในสิ่งที่ทุกคน คิดไม่ถึงคือจะขอบวชให้กับวิญญาณอัปสร เมื่อเรื่องทั้งหมดคลี่คลาย สกรรจ์ตามไปพบอัมวิกา เธอถามเขาว่าไม่โกรธหรือเขารักอัมวิกา สกรรจ์บอกเธอว่าเขาเชื่อมั่น ในอานุภาพ ของความรักจะทำให้เกิดความสุขแท้จริง มิใช่ ความแค้น .. และขอให้อัมวิกาลืมเรื่องทั้งหมดเสีย ทำให้อัมวิการ้องไห้ โผเข้ากอดสกรรจ์ ผู้ชายที่เปลี่ยน‘ไฟแค้น’ ในใจเธอให้กลายเป็น ‘ความรัก’ ได้

อัมวิกากราบขอโทษสกรรจ์และขอร้องว่า ต่อแต่นี้ไป..ขอให้สกรรจ์อยู่เคียงข้างเธอ สอนเธอให้เข้าใจรักแท้ที่ผู้หญิงเก่งอย่างเธอ รู้ตัวแล้วว่ายังอ่อนหัดนัก



ละคร อุ้มรัก | คลิป ละคอนไทย แอน ทองประสม เคน ธีรเดช






ณภัทร ไฮโซสาวสวย เชื่อมั่น เอาแต่ใจ ถูกพ่อของเธอปฏิเสธที่จะส่งเงินมาให้ใช้จ่ายเหมือนเดิม เพราะต้องการให้ณภัทรกลับไปเรียนต่อ และย้ายไปอยู่กับท่านที่อเมริกา แต่ณภัทรยืนยันหนักแน่นที่จะอยู่เมืองไทยและหาเงินใช้เอง เธอตัดสินใจก้าวเข้าวงการบันเทิง ด้วยการแนะนำของ แอนนา นางแบบ สาวเพื่อนสนิทของเธอการถ่ายโฆษณาชิ้นแรก เธอก็ได้พบกับ เชน (ราเชนทร์) ช่างภาพสุดหล่อมาดเซอร์ ขาลุย ปากร้ายเจ้าอารมณ์ ชี้หน้าปรามาสว่า ณภัทรเป็นพวกคุณหนูไฮโซ เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ทำงานไม่เป็น เขาถึงกับออกปากฟันธง ว่าเธอไม่มีทางดังแน่นอนแต่ใครจะเชื่อ ณภัทรกลับกลายเป็น สาวฮอท เพียงชั่วข้ามคืน ที่ใคร ๆ ก็อยากได้ไปร่วมงาน ทั้งโฆษณา ละคร ภาพยนตร์และงานเดินแบบ และแล้วเชนกับณภัทรก็โคจรมาพบกันอีกครั้ง ในงานปาร์ตี้ริมหาดฉลองวันเกิดครบรอบ 5 ปีของนิตยสารเล่มดัง ญ.หญิง นางแบบที่มาเดินแฟชั่นล้วนแล้วแต่เป็นคนดัง ดารานางแบบแถวหน้าของ เมืองไทยทั้งสิ้น รวมไปถึงช่างภาพ จากสื่อบันเทิงต่าง ๆ ก็มารวมตัวกันที่นี่จนเกือบหมดวงการ


งานเดินแบบจบไปอย่างสวยงามท่ามกลางเสียงชื่นชม หลังจากนั้นก็มีการปิดผับจัดปาร์ตี้ขอบคุณเฉพาะคนวงในต่อ เชนก็ได้รับเชิญด้วยในฐานะเพื่อนสนิทของ จัสมิน นางแบบชื่อกระฉ่อน ที่ขยันสร้างความฮือฮาเป็นระยะ ๆ โดยเฉพาะกับผลงานถ่ายวาบหวามล่าสุด จากฝีมือถ่ายภาพของราเชนทร์ จนทั้งคู่ตกเป็นข่าวกุ๊กกิ๊กกันมา เจ้าของแมกกาซีน สมนาคุณนางแบบทุกคนด้วยกระเป๋าถือหรู สั่งตัดเย็นพิเศษจำกัดจำนวน บรรดานางแบบต่างปลื้ม ถูกอกถูกใจกันมากและกระเป๋าใบหรูเหมือนกันหมดเหล่านี้แหละ ที่ก่อให้เกิดเรื่องใหญ่อย่างที่ไม่มีใครคาดคิด ปาร์ตี้ขอบคุณดำเนินไปอย่างสนุกสนาน มีการแข่งขัน ประกบคู่ดวลดื่มเหล้าของฝ่ายกองบก. กับฝ่ายนางแบบ เพื่อชิงรางวัลจากผู้บริหาร เพื่อนนางแบบเชียร์ให้ณภัทรดริ๊งค์แข่งกับบก.ฝ่ายบทความของแมกกาซีน เพราะเป็นสาวคออ่อนทั้งคู่ ณภัทรพยายามบอกว่าไม่ไหวแล้ว แต่แอนนาเพื่อนซี้ก็คอยลุ้นไม่ให้ยอมแพ้ จนณภัทรอ้วกแตก เมาแอ๋ไม่ได้สติ


แอนนาพาณภัทรขึ้นไปนอนพักที่ห้อง ก่อนจะกลับลงมาปาร์ตี้กับเพื่อน ๆ ต่อ แอนนามานั่งร่วมโต๊ะกับสาวฮ็อตจัสมินและเชนคู่กิ๊ก ทั้งคู่กำลังมึนเมาได้ที่เลย นัดแนะกันขึ้นห้องพัก แต่เพื่อไม่ให้เป็นเป้าสายตา จัสมินให้เชนขึ้นไปรอบนห้องก่อน ขณะเดียวกันแอนนาที่นั่งอยู่ติดกับจัสมิน อีกด้านจะลุกไปหาเพื่อนอีกโต๊ะ แอนนาหยิบกระเป๋าถือที่ได้รับแจกใบใหม่ติดไปด้วย แต่มัวมองเพื่อน เลยหยิบใบของจัสมินไป ทิ้งใบของตนไว้แทน จัสมินก็มึนเช่นกัน เธอเลย ควานหากุญแจห้องในกระเป๋าแอนนาแล้วยัดใส่มือเชน เชนแอบซ่อนกุญแจใส่กระเป๋ากางเกงแล้วลุกออกไป แต่ก็เจอกลุ่มเพื่อนดึงตัวไว้ชวนชนแก้วกันอีก เชนพยายามหาตัวเลี่ยงอยู่นานกว่าจะปลีกตัวไปได้ เชนมึนหนักขึ้น เดินขึ้นมาไขประตูเข้าห้องพักณภัทรและแอนนาไป เชนมึน ๆ พูดขอโทษที่มาช้าพูดด้วยก็ไม่ตอบ เชนเลยคิดว่าจัสมินงอน เลยตรงเข้า หาณภัทร ที่นอนไร้สติไม่รู้เรื่องรู้ราวอยู่บนเตียง

พอทุกฝ่ายได้สติ ณภัทรวีนแตก ด่าสาดเสีย เทเสียใส่เชน ทำนองว่าคิดซะว่า ให้หมามันกิน แอนนาพยายามไกล่เกลี่ยช่วยหาทางออกที่ดีที่สุด เชนขอรับผิดชอบ ณภัทรด่ากระจายบอกว่า ฉันไม่ได้รักแกจะมารับผิดชอบอะไร ณภัทรต้องการให้ลืมเรื่องนี้ ถือว่าไม่มีอะไร เกิดขึ้นและชาตินี้อย่าให้เจอหน้ากันอีกเลย

เชนจำใจรับปากว่าจะปิดปากเงียบและไม่พบหน้าณภัทรอีก ทั้งที่รู้สึกแย่มากอยากรับผิดชอบกับความผิดที่ตนทำลงไป แต่เรื่องไม่จบลงแค่นั้น ประจำเดือนของณภัทร ไม่มาตามกำหนด ณภัทรกับแอนนา จึงแอบไปซื้ออุปกรณ์ตรวจสอบการตั้งครรภ์มาตรวจดู ผลปรากฏว่าเธอท้อง แอนนาแนะนำให้ไปบอกเชน ณภัทรไม่ยอม เกลียดขี้หน้าเชนเข้ากระดูกดำ ณภัทรตัดสินใจที่จะทำให้ตัวเองแท้ ณภัทรคิดกลเม็ดจะทำแท้งหลากหลายวิธีที่คล้ายกับไม่ตั้งใจ ให้แท้งธรรมชาติ เธอโหมเล่นกีฬาและรับงานมาก กะให้ร่างกายเหนื่อยและเด็กหลุดไปเอง แต่จนแล้วจนรอดเด็กก็แข็งแรงเกาะมดลูกแน่นไม่หลุดไปไหน

สุดท้ายด้วยความที่กลัวจะท้องป่อง ณภัทรตัดสินใจดื่มยาสตรีวันเพ็ญตราค้างคาวกินกล้วย แต่ความที่เป็นคนดีก็ทำไม่ลง ได้แต่ร้องไห้กอดแอนนาเพื่อนรัก แอนนาสงสารเพื่อน คิดหาทางช่วยเหลือ ความเครียดของเชนจากเหตุการณ์ดังกล่าว แม้จะปกปิดมิดชิดยังไงแต่ครอบครัวก็สังเกตได้ทั้ง ป้าหมี (รัศมี) และ ราเมศ กับ กุ้ง พี่ชายและพี่สะใภ้ ต่างรู้สึกได้ ทุกคนพยายามซักไซ้ เชนก็ยังคงปิดปากเงียบ แต่ทุกคนก็ไม่ได้สนใจเชนนานนักเพราะป้าหมีมียาต้มจีนตำรับใหม่ที่ขึ้นชื่อว่า ให้ผู้หญิงกินบำรุงแล้วจะท้องง่ายให้กับกุ้ง เพราะราเมศและกุ้งพยายามจะมีลูกด้วยกันมานานแล้วแต่ ไม่สำเร็จเสียทีเชนกังวลใจจนทนต่อไป ไม่ไหวต้องการที่ระบายจึง มาปรึกษา เพื่อนสนิทอย่าง ช๊วน และหนูนา สองสามีภรรยาเพื่อนซี้ ที่ตั้งหน้าตั้งตาผลิตทายาทอยู่เหมือนกัน
หากแต่ทั้งคู่มีความต้องการเพศลูกที่ต่างกัน ช๊วนอยากได้ลูกชาย หนูนาอยากได้ลูกสาว ทั้งคู่จึงงัดตำราผลิตบุตรชายบุตรสาวจากทุกคำบอกเล่า มาฟาดฟันกันตลอดเวลา แต่จนแล้วจนรอด ทั้งคู่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จติดลูกเสียทีเชนมาปรึกษาเรื่องการตั้งท้องว่ามีความเป็นไปได้ไหม หลังจากมีอะไรกันครั้งเดียว ทั้งสองบอกว่ามีสิทธิ์เป็นไปได้ และสงสัยว่าเชนไปทำสาวที่ไหนท้อง เชนยังคงปิดปากเงียบ พกความกังวลใจกลับไป แอนนาแอบมาหาเชนและบอกความจริงว่าณภัทรท้อง เชนตกใจมาก ทนไม่ได้ที่ณภัทรจะทำแท้ง เชนเป็นคนที่อ่อนไหวเรื่องครอบครัวมาก เพราะพ่อแม่ตนประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตตั้งแต่ยังเล็ก มีคุณป้าเลี้ยงมาจนโต เชนจึงต้องการมีลูกมีครอบครัวที่อบอุ่น อยากเป็นพ่อเหมือนกับที่พ่อเคยทำกับตัวมาตลอดชีวิต เชนตัดสินใจไปพบณภัทรทุกอย่างไม่ง่ายอย่างที่คิด เชนถูกณภัทรตบหน้าและด่ากระจาย
มิหนำซ้ำณภัทรทำร้ายจิตใจเชน ด้วยการประกาศกร้าวว่า เชนไม่มีวันได้เห็นเด็กในท้องเพราะเด็กไม่มีทางได้ลืมตาออกมาดูโลก เชนก็ดับเครื่องชน บอกจะตามขัดขวางให้ถึงที่สุดด้วยความชิงชังและอยากเอาชนะจนหูตามืดมัว ณภัทรตัดสินใจรับงานแฟชั่นโชว์และได้โชว์ชุดฟินาเร่เฉือนจัสมินไป เชนและแอนนาพยายามห้ามณภัทรไม่ให้รับงาน เพราะชุดจบนางแบบจะต้องห้อยสลิงลงมาจากที่สูงซึ่งเป็นอันตรายกับเด็กมาก ณภัทรยิ่งอยากจะทำ เธอทะเลาะกับเชนรุนแรง แต่ก็ไม่มีใครห้ามณภัทรได้ งานแฟชั่นโชว์ผ่านไปด้วยดีท่ามกลางความลุ้นระทึกของเชนและแอนนา พอหลังเวทีณภัทรปวดท้องมากและเป็นลมไปเชนและแอนนาพาณภัทรมาพบ หมอวรวิทย์ สูตินารีแพทย์ญาติสนิทของแอนนา หมอตรวจพบการตั้งครรภ์และจากการทำการอัลตราซาวด์ ทำให้พบว่าเจอตัวเด็กในถุงน้ำคร่ำแล้วด้วย เชนแอบดีใจขณะที่ณภัทรช็อคแทบพูดไม่ออก แต่ยังคงยืนกรานว่าไม่มีวันยอมรับความรับผิดชอบจากเชน เธอจะหาทางแก้ไขเรื่องนี้เอง แต่แล้วเธอก็คิดได้ว่าจะไม่ทำลายเด็กในท้องแล้ว
แต่พยายามหาทางออกอื่นโดยคิดจะจับผู้ชายสักคนเป็นพ่อของเด็ก มาร์ค นายแบบหนุ่มสุดหล่อลูกชายเศรษฐีชื่อดังจึงเป็นเป้าหมายที่เหมาะสมที่สุด ณภัทรวางแผนจับมาร์คอย่างรีบด่วน โดยนัดแนะมาร์คไปพบที่รีสอร์ตชายทะเล แล้วจัดแจงมอมเหล้าตัวเองเพื่อจะทำทีเป็นเมาเผลอไผล เพื่อให้มาร์คฉวยโอกาสปล้ำ เชนและแอนนารู้เรื่องรีบตามมาขัดขวาง เมื่อมาถึงเชนแทบทรุดเมื่อเห็นมาร์คนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาเปิดประตู เชนโกรธมากตรงเข้าจะทำร้ายมาร์ค แต่มาร์คยืนยันว่าเขาเป็นลูกผู้ชายพอ เพราะเมื่อมาถึงณภัทรก็เมาจนครองสติไม่อยู่ เธอร้องไห้และอ้วกใส่เขา ก่อนจะหมดสติไปด้วยความเมา เชนโล่งอกแต่ก็ขอพูดจาตกลงกับมาร์ค ทั้งคู่ประกาศตัวเป็นคู่แข่งกันอย่างเปิดเผยว่าใครที่จะได้ใจณภัทรไปครอง

ณภัทรเริ่มเกิดอาการแพ้ท้องแปลกประหลาด อาทิชอบกินดอกไม้ แอนนาต้องคอยระวังแทนเพื่อน กลัวคนอื่นจับได้ นอกนั้นณภัทรก็มีอาการคลื่นไส้ กินเก่ง ง่วงนอน เหมือนคนท้องทั่วไป แต่อาการเด่นอีกอย่างคือวีนแตก จนเป็นที่ร่ำลือไปทั่ววงการ ว่าเธอกลายเป็นสาวปากจัดกัด แหลกวีนทุกเม็ดส่วน เชนเอง ก็เกิดอาการแพ้ท้องแทนเมียเหมือนกัน จากที่เคยปากเสีย กลับพูดเพราะ หน้าที่เคยบึ้งตึงกวนประสาทกลับกลายเป็นยิ้มง่าย และชอบที่จะใช้เวลาว่างไป กับการถักไหมพรมและที่สำคัญช่วงนี้เชนอ่อนไหวสุด ๆ อินกับอะไรง่าย ขี้น้อยใจ เป็นนางเอกเจ้าน้ำตาไป จนเพื่อนร่วมวงการเริ่มงง ๆ วิพากษ์ วิจารณ์ ไปต่าง ๆ นานา

ณภัทรเริ่มอ้วนขึ้นจนต้องแขม่ว เชนเป็นห่วงคอยเช็คข่าวกับแอนนาถึงความสมบูรณ์แข็งแรงของณภัทรตลอดเวลา ส่งของบำรุงต่าง ๆ มาให้ และตามง้อตลอด แต่เชนก็ได้รับความไม่แยแสและคำด่าแสบ ๆ ตอบกลับไปเสมอ พร้อมทั้งภาพบาดตาที่มาร์คจะคอยตามรับส่งเทคแคร์ณภัทร์อยู่ เสมอ ๆ ข่าวคราวปิ๊งปั๊งระหว่างเชนและจัสมินก็ยังคงมีอยู่ต่อเนื่อง ณภัทรแอบหึงหวงอย่างบอกไม่ถูกแต่เธอพยายามไม่ใส่ใจ แต่แล้วณภัทรและจัสมินต่างก็ได้ เป็น ฟรีเซนเตอร์คู่กันในงานโฆษณาใหญ่ ที่ต้องไปถ่ายทำต่างประเทศ เชนและแอนนาพยายามห้าม เพราะนั่งเครื่องบินระยะทางไกล ๆ จะเป็นอันตรายกับเด็ก ในท้อง ณภัทรไม่แคร์บอกว่าเธออยากเที่ยวและอยากได้เงิน จัสมินที่ไม่ชอบหน้าณภัทรอยู่แล้ว คิดหาจังหวะจ้องทำลายชื่อเสียงณภัทรอยู่เงียบ ๆ จัสมินพักห้องเดียวกับณภัทร และแอบเห็นพุงป่องผิดปกติ ประกอบกับณภัทร พฤติกรรมแปลก ๆ จัสมินคิดแผนการร้ายได้ จึงปล่อยข่าวกลับมาเมืองไทยว่าณภัทรท้อง สื่อประโคมข่าวสารพัด ว่าทำกิ๊ฟท์มั่งแหละ ท้องไม่มีพ่อมั่งแหละ แอนนาและเชนห่วง ณภัทรมาก เพราะชื่อเสียงป่นปี้หมดแล้ว

ณภัทรเลี่ยงที่จะกลับเมืองไทย ณภัทรเดินทางไปอเมริกาเพื่อหาพ่อที่เมืองนอกเธอเล่าความจริงทั้งหมดให้พ่อฟัง พ่อต้องการให้ณภัทรอยู่กับพ่อ และเก็บเด็กเอาไว้ ไม่อยากให้สร้างบาปกรรมกับชีวิตหนึ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว ณภัทรตัดสินใจ ที่จะละทิ้งวงการมาใช้ชีวิตอยู่เงียบ ๆ กับพ่อที่นี่ ทางด้านเมืองไทย จัสมินส่งข่าวไม่หยุดหย่อน สื่อยังโหมเล่นข่าวนี้ไม่เลิก ข่าวลือต่าง ๆ นานา เริ่มหนักข้อขึ้นจนทุกคนเรียกร้องให้ณภัทรออกมาแถลงข่าว เพราะถือว่าเป็นแบบอย่างที่ไม่ดีต่อเยาวชน เชนอดทนต่อไปไม่ไหวจัดการแถลงข่าวเอง ยอมรับว่าตนเป็น พ่อของเด็กในท้องของ ณภัทร โกหกนักข่าวว่าตนทั้งสองแอบหมั้นกันนานแล้วแต่ปิดเป็นความลับ ข่าวช็อควงการกระหึ่มอีกรอบ ดังสนั่นไกลไปถึงอเมริกา ณภัทรเดือดดาลมาก ทนไม่ได้ต้องบินกลับมาเล่นงานนายราเชนทร์ตัวแสบ ณภัทรแอบกลับมาเมืองไทยเงียบ ๆ และด่าทอทุบตีเชนว่าทำลายชื่อเสียงของเธอทำลายอนาคตของเธอ แอนนาเตือนสติว่าเชนทำดีที่สุดแล้ว เรื่องมาถึงขั้นนี้ต้องปล่อยเลยตามเลย เชนจึงเสนอให้จัดงานแต่งงาน ทำทุกอย่างให้ถูกต้องเด็กคลอดออกมาแล้ว จะเลิกจะอะไรค่อยว่ากันใหม่

ณภัทรจนปัญญาจำใจต้องทำตามข้อเสนอของเชนเชนเอาเรื่องนี้มาปรึกษา กับป้า หลังจากที่ป้าโกรธเชนตั้งแต่เกิดเรื่อง ป้ายืนยันหัวเด็ดตีนขาดยังไงก็ไม่ยอม แต่เชนบอกว่าณภัทรมีท้องอุ้มลูกเชนเอาไว้ เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเชน พี่ชายและพี่สะใภ้ก็ช่วย พูดช่วยลุ้น ป้าอยากได้หลาน เห็นแก่หลานจึงยอม ณภัทรและเชนหันมาจับเข่าคุยกัน ณภัทรยืนกรานให้จัดงานเงียบ ๆ ห้ามเชิญผู้สื่อข่าวแขกเหรื่อ ห้ามเกิน 20 คน พิธีห้ามเกินครึ่งชั่วโมง หลังจากนั้นค่อยส่งภาพข่าวไปให้หนังสือพิมพ์ เชนยอมทุกอย่าง เชนจัดสถานที่แต่งงานแบบเรียบง่าย ริมหาดที่เกาะส่วนตัวแห่งหนึ่ง บรรยากาศดูโรแมนติคมีแขกเหรื่อคนใกล้ชิดแค่สิบกว่าคนรวมถึงมาร์คด้วย มาร์คทำใจยอมรับไม่ได้ แม้ว่าแอนนาจะพยายามพูดให้เขาเปิดใจยอมรับความจริง แต่มาร์คก็ยังเชื่อว่าคนที่ไม่ได้รักกัน แต่งงานกันไปก็อยู่ด้วยกันไม่ได้เขาพร้อมที่จะรอ... นั่นสร้างความเจ็บปวดใจให้แอนนาเหลือเกิน เพราะเธอแอบหลงรักมาร์คอยู่นั่นเอง แม้จะแต่งงานกันแล้ว ณภัทรก็ตั้งกฏเหล็ก ห้ามเชนถูกเนื้อต้องตัวเด็ดขาด เพราะแต่งงานทางนิตินัยเท่านั้น ไม่ใช่สามีภรรยากันจริง ๆ เชนต้องนอนกับพื้น ไม่มีสิทธิ์นอนเตียงคู่กัน เชนยอมทุกอย่างเพื่อลูกงานแต่งงานและวันฮันนีมูนจบลงอย่างแกน ๆ

ความวุ่นวายต่อไปที่รออยู่ก็คือการย้ายเข้าบ้านสามีของณภัทร เชนดูตื่นเต้นจัดห้องหับเอาใจ ผิดกับป้าหมีที่ตั้งป้อมอคติ อารมย์ประมาณเกลียดตัวกินไข่ เกลียดแม่แต่อยากได้หลาน แกจึงออกอาการประหนึ่งแม่ผัวตัวร้าย สร้างความกดดันให้ณภัทร จนเธอยื่นคำขาดกับเชนที่จะย้ายออกไปอยู่คอนโดเพื่อมีครอบครัวเป็นของตัวเอง เชนเองก็ถูกกดดันจากป้าทำให้ทั้งคู่มีปากเสียงกัน ณภัทรเก็บกระเป๋าจะย้ายออก เชนเข้าห้ามเกิดยื้อยุดกันไปมา ณภัทรเสียหลักไปกระแทกเตียงล้มลง เกิดอาการปวดท้องมาก ทุกคนต้องพาไปหาหมอ ท่ามกลางความลุ้นระทึก เด็กปลอดภัย เชนดีใจมากกอดณภัทรร้องไห้ และก้มลงกราบขอร้องป้าให้เขา ได้ย้ายออกไปอยู่คอนโด เพื่อความสบายใจของณภัทร จะได้ไม่เกิดเรื่องแบบนี้อีก ป้าหมีจำใจยอมรับทั้งน้ำตา ณภัทรเองเมื่อเห็นน้ำตาลูกผู้ชายของเชน ก็รู้สึกผิดขึ้นมา เพราะที่เชนยอมทุกอย่างก็เพราะห่วงชีวิตบริสุทธิ์ที่กำลังจะเกิดมา ณภัทรดูจ๋อย ๆ ไป ณภัทรตั้งท้องเข้าสู่เดือนที่ 4 ทั้งคู่ย้ายมาอยู่คอนโด เชนกว้านซื้อตำราต่าง ๆ มาเต็มบ้าน คอยเพียรอ่านให้ณภัทรฟังทุกคืน ถึงอาการของแม่และพัฒนาการของเด็กทุกระยะ

ณภัทรดูไม่แคร์และว่า เชนไร้สาระ แต่ก็จำเป็นต้องนอนฟังเชนอ่านทุกคืนและแล้วความชื่นชมยินดีก็มาสู่บ้านเชนอีกครั้ง เมื่อกุ้งพี่สะใภ้ตั้งท้อง ราเมศและกุ้งกอดกันดีใจร้องไห้ไม่เว้นแม้แต่ป้า และเชนที่ปลื้มดีใจ กอดกันร้องไห้ตาม ณภัทรแอบเห็นเหตุการณ์อดที่จะตื้นตันไปด้วยไม่ได้ แต่ก็ตัดใจทำไม่แคร์เสียอย่างนั้น ณภัทรต้องไป ถ่ายแบบ ที่เมืองนอก 3 วัน เชนขอร้องไม่ให้ไป แต่ไม่สำเร็จ เชนเป็นห่วงทุกวินาที โทรตามเช็คจนโดนณภัทรด่าด้วยความรำคาญ ตกกลางคืนณภัทร กลับนอนไม่หลับอย่างไม่มีสาเหตุทั้งที่เหนื่อย ณภัทรจำใจกดโทรศัพท์มาหาเชน

เชนต้องอ่านตำราตั้งครรภ์ให้ณภัทรฟังผ่านสายโทรศัพท์ ไม่นานณภัทรก็ผล็อยหลับไปด้วยความเคยชินที่ต้องได้ยินเสียงอ่านตำราของเชน ทุกคืน ณภัทรมีอาการ แพ้ท้องแปลก ๆ อยู่เสมอ เชนพยายามเอาใจทุกอย่าง ยิ่งทำให้ป้าหมีไม่พอใจ หาเรื่องแอบจิก แอบกัด ใส่ร้ายณภัทรอยู่เสมอ ๆ แต่ณภัทรก็รู้ทันและเอาคืนได้เกือบทุกครั้ง ณภัทรเองก็เครียดขึ้นทุกวัน แอนนากลัวว่าจะส่งผลร้ายกับเด็กในท้อง แนะนำให้ณภัทรลองเปลี่ยนสถานที่ไปพักกับ แม่ของณภัทร ที่ต่างจังหวัด แต่ณภัทรปฏิเสธ เชนแอบได้ยินแอนนาคุยกับณภัทรจึงได้รู้ว่าณภัทรมีปัญหาเรื่องพ่อแม่แยกทางกัน พ่อต้องไปทำงานที่ต่างประเทศ และครองตัวเป็นโสดจนทุกวันนี้ ขณะที่แม่แต่งงานใหม่ไปกับชาวสวนคนหนึ่ง ณภัทรจึงมีอคติกับแม่ว่าทรยศต่อความรักของเธอตลอดมา เชนคิดว่าจะเป็น การดี ถ้าณภัทรจะมีแม่มาอยู่ใกล้ ๆ ให้ความรักและคอยแนะนำสิ่งที่ผู้หญิงควรเรียนรู้ระหว่างตั้งครรภ์ และยังแอบคิดจะประสานร้อยร้าวระหว่างแม่กับลูกคู่นี้เชนวางแผนเกลี้ยกล่อมให้ณภัทรไปพักที่บ้านสวนของแม่สำเร็จ

เชนลางานพาณภัทรเดินทางไปบ้านสวน แต่รถเจ้ากรรมดันติดหล่มเพราะฝนตกหนัก เมื่อเห็นถึงความทุรกันดาร ณภัทรเปลี่ยนใจขอกลับกรุงเทพฯ เชนไม่ยอมพากลับ เชนให้ณภัทรขี่คอเดินเข้าไปจนถึงบ้านสวน ณภัทรได้พบนายทองก้อน สามีใหม่ของแม่เป็นครั้งแรก และยังได้รู้จักมัดหมี่ สาวรุ่นใส่ซื่อ ลูกสาวกำนันที่มาแอบปลื้มเชน เจ้าแกละ ลูกชายคนงานจอมแก่น รวมทั้ง ไก่ เป็ด สัตว์เลี้ยงในสวน ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่ณภัทรไม่คิดไม่ฝันว่าจะต้องมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ ตัวทองก้อนเอง ด้วยความรักภรรยาก็พยายาม เอาอกเอาใจณภัทรทุกอย่าง มัดหมี่แม้จะอกหักจากเชนแต่ก็ยังแสดงออกเป็นแม่พระ ขอช่วยดูแลณภัทรด้วยอีกคน ซึ่งทั้งหมดนี้ทำให้ณภัทรอึดอัดแทบเป็นบ้าแต่ยิ่ง ณภัทรวีนมากเท่าไหร่ ทุกคนก็ยิ่งดีกับเธอมากขึ้นเท่านั้น (เพราะคิดว่าคนท้องขี้หงุดหงิด) ณภัทรเริ่มเรียนรู้ว่าชีวิตมีความรักอยู่รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นความรัก ของแม่ที่มีต่อลูก ความรักในแบบพี่น้องของเชน ความรักที่มนุษย์มีให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน...

ณภัทรรู้สึกขัดแย้งในตัวเอง และเริ่มรู้สึกผูกพันกับ เชน มากขึ้น เช่นเดียวกันเมื่อณภัทรอยู่ในอารมณ์ที่ผ่อนคลาย ทำให้เชนมองณภัทรเปลี่ยนไป เชนมองว่าณภัทรเป็นผู้หญิงที่อ่อนหวาน มีน้ำใจมากขึ้น เชนเริ่มจะ ตกหลุมรักเธอ เมื่อกลับมากรุงเทพฯ พฤติกรรมของณภัทรก็เปลี่ยนไป ทำเอาป้าหมีรับมุขไม่ทันไปเหมือนกัน ณภัทรตั้งท้องเข้าสู่เดือนที่ 5 เชนคะยั้นคะยอให้ณภัทรไปหาหมอเพื่ออัลตร้าซาวด์อยากดูความสมบูรณ์ของเด็ก ณภัทรยืนกรานไม่ไป เชนก็ไม่กล้าขัดใจ กุ้งอาการแพ้ท้องมา ปรึกษาหารือกับณภัทรตลอด ราเมศให้กุ้งออกจากงาน ทั้งบ้านประคบประหงมห่วงใยกันน่าดูกุ้งเล่าเรื่องครอบครัวของเชน กับราเมศ ให้ณภัทรฟัง ว่าสองพี่น้องน่าสงสารกำพร้าพ่อแม่แต่เล็ก การได้มีลูกสำคัญต่อพี่น้องสองคนนีมาก เหมือนกับเป็นการชดเชยสิ่งที่ขาดและโหยหา ให้กับ ตัวเขาเอง

ณภัทรเริ่มเข้าใจเชนมากขึ้น แต่ทิฐิก็ยังเหนือกว่า กุ้งไปตรวจพบว่ารกเกาะต่ำ ต้องระวังให้พ้นสามเดือน หมอก็ให้ยากันแท้งมากิน กุ้งกังวลมาก แต่ก็ได้ณภัทรและป้าหมีคอยให้กำลังใจสองพี่น้องจอมบ้าเห่อจัดแจงเพื่อลูกต่าง ๆ นานา พาณภัทรและกุ้งไปไหว้พระขอพร แอบตั้งชื่อลูก แอบซื้อของใช้เด็ก ราเมศเองก็คอยเปิดเพลงให้ลูกฟังทุกคืน คุยกับลูกในท้อง เชนอยากทำมั่งแต่ไม่กล้ากลัวณภัทรวีนใส่ ได้แต่แอบพูดห่าง ๆ ตอนณภัทรหลับ แต่เชนก็ยังคงอ่านตำรา ตั้งครรภ์กล่อมณภัทรก่อนนอนทุกคืน และแล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ขณะที่กุ้งเข้าห้องน้ำแล้วลูกหลุดออกมาเป็นก้อนเลือดคาอยู่ในมือ ทุกคนตกใจและช็อคกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงตัวณภัทรด้วย

บ้านอยู่ในความโศกเศร้าจากการเสียเด็กในท้องของกุ้ง ทุกคนเหมือนไม่มีชีวิตจิตใจ กุ้งเอาแต่นอนร้องไห้ไม่กินไม่อยู่ สองพี่น้องแอบร้องไห้กอดกัน ตอนกลางคืน ป้าหมีทำอะไรก็ไม่ไหว เอาแต่ร้องไห้ ณภัทรสงสารทุกคนมาก เธอเริ่มได้สติ เห็นคุณค่าของชีวิตใหม่ที่อยู่ในท้องตน และคิดว่าเด็กในท้อง จะนำความชื่นชมยินดีกลับมาสู่บ้านหลังนี้ได้อีกครั้ง ณภัทรกล่าวขอโทษทุกคนและสัญญาจะทำตัวใหม่ จะดูแลเด็กในท้องให้ดีที่สุด ณภัทรร้องไห้กอดกับ ป้าหมีปรับความเข้าใจกัน ณภัทรตั้งท้องเข้าสู่เดือนที่ 6 เชนบำรุงณภัทรอย่างดี ทั้งคู่เริ่มมองเห็นความดีในตัวของกันและกัน ณภัทรยอมไปอัลตราซาวด์ 4 มิติ ณภัทรได้เห็นลูกในท้อง และได้ยินเสียงหัวใจลูกเต้น ณภัทรร้องไห้ออกมาอย่างตื้นตันจับมือเชนไว้แน่น หมอวิทย์บอกว่าลูกในท้องปลอดภัยครบ 32 ณภัทร์ร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจหายห่วง เชนกอดณภัทรเอาไว้ ณภัทรตั้งท้องเข้าสู่เดือนที่ 7 เชนรับงานอย่างโหมหนักเพื่อจะเก็บเงินไว้ให้ลูก ณภัทรก็รับงานพรีเซนเตอร์เบา ๆ เกี่ยวกับแม่ท้องและลูกน้อย

ณภัทรเปลี่ยนไป จนแอนนาแซวตลอด เพราะไม่ว่าจะกระดิกตัวทำอะไร เป็นต้องโทรถาม หมอทุกระยะ ณภัทรอยากให้เด็กเป็นผู้ชายจะได้เป็นคนดีเหมือนพ่อของเขา ขณะที่เชนก็อยากให้ลูกเป็นผู้หญิงจะได้เหมือนกับแม่ แอนนาแซวเพื่อน เสียยกใหญ่อะไรจะหวานกันขนาดนั้นทั้งที่เคยตบตีกับเกือบตาย งานพุ่งเข้าหาณภัทรตลอดจนจัสมินอิจฉา หาข่าวโจมตียังไงก็ไม่เป็นผล พยายามแย่งงานตลอดก็ไม่สำเร็จ จัสมินสร้างกระแสด้วยการประกาศ จะแต่งงาน กับมาร์ค แต่งานล่มเพราะมาร์คไม่เล่นด้วย จัสมินอับอายจนหลบหน้าไปอยู่ต่างประเทศ ท่ามกลางข่าวลือเสีย ๆ หาย ๆ นับเป็นกรรมตามสนองที่เคยทำ กับเค้าเอาไว้เชนได้รับจดหมายตอบรับจากนิตยสารชั้นนำของฝรั่งเศสให้ไปเซ็นสัญญา หลังจากได้พิจารณาผลงานที่เชนส่งไป เชนตัดสินใจไม่ถูกว่าจะ ไปทำงานที่ฝรั่งเศสดีหรือไม่ เพราะในใจของเชนรักและเป็นห่วงณภัทรเต็มเปี่ยม ณภัทรเองก็คิดหนักอยากปล่อยคนที่เธอรักให้เป็นอิสระ เพราะหากณภัทร รั้งเชนไว้ เชนก็ย่อมไปไม่ถึงฝันมาร์คพยายามมาป้วนเปี้ยนเพื่อหวังให้ณภัทรไปเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าตัวใหม่ของบริษัทพ่อ ทำให้เชน เข้าใจผิดและหึงหวง

ณภัทรกับเชนจึงมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง ณภัทรจึงขอแยกกันอยู่กับเชน โดยมีมาร์คมารับณภัทรออกจากบ้านไป แอนนารู้แล้วว่า เธอไม่สามารถเอาชนะใจมาร์คได้ เธอจึงถอดใจ และยินดีที่เขาจะได้สมหวังกับความรักเสียที เชนเองก็เสียใจมาก จึงตัดสินใจไปทำงานที่ฝรั่งเศส วันที่เชน เดินทาง ณภัทรเกิดอุบัติเหตุเป็นลมตกบันไดในกองถ่ายโฆษณา เชนรีบเผ่นกลับจากสนามบินมาที่โรงพยาบาลทันที ณภัทรถึงกับน้ำตาไหล เมื่อลืมตาขึ้นมา พบหน้าเชน และรู้ว่าลูกในท้องปลอดภัย มาร์คได้เห็นภาพนั้นก็เริ่มเข้าใจทุกอย่าง...ณภัทรตั้งท้องเข้าสู่เดือนที่ 8 พร้อมกับข่าวดีที่สุดของครอบครัว

กุ้งตั้งท้อง อีกครั้ง เชนจูงมือณภัทรไปเข้าคอร์สเตรียมความพร้อมของพ่อแม่ก่อนมีลูกด้วยกัน ความรักความเข้าใจก่อตัวขึ้นระหว่างคนทั้งสองอย่างกระชับแน่นขึ้นทุกทีและในที่สุดวันที่ทุกคนรอคอยก็มาถึง ณภัทรคลอดลูกด้วยวิธีการคลอดลูกในน้ำ เด็กคลอดออกมาอย่างปลอดภัย ท่ามกลางความดีใจโล่งอกของเชนและณภัทร ทั้งคู่อุ้มลูกไว้ในอ้อมกอดของกันและกันเชนเซอร์ไพรซ์ณภัทรในวันเกิดครบรอบ 6 เดือนของเจ้าตัวเล็ก ด้วยการเปิดนิทรรศการ "อุ้มรัก" ซึ่งเป็นงาน แสดงภาพ ถ่ายที่เขาแอบถ่ายเก็บไว้ ตลอดเก้าเดือนที่ณภัทรอุ้มท้องเจ้าตัวน้อย จนถึงวินาทีที่เขาลืมตาดูโลกและอยู่ในอ้อมกอดของพ่อและแม่ ณภัทร ตื้นตัน จนน้ำตาคลอเข้าสวมกอดสามีและกล่าวขอบคุณเชนที่เขาอดทนต่อเธอจนมีวันนี้ คุณแม่ท้องแก่สองคนคือกุ้งและหนูนา ที่มาร่วมงาน ต่างก็ตื้นตันยินดีไปกับภาพที่เห็น ทั้งสองแม่มีกำหนดคลอดใกล้ ๆ กัน

ช๊วนและหนูนาก็สมหวังได้ลูกแฝดชายคนหญิงคน โดยตัดสินไม่ถูกว่าเป็นสูตรของใคร มาร์คและแอนนาก็มาร่วมแสดงความยินดีด้วย มาร์คแกล้งพูดเปรยดัง ๆ ไปทางแอนนาว่า เขาซักอยากมีช่วงเวลาดี ๆ แบบนี้บ้าง แอนนาก็พูดเปรยดัง ๆ กลับไปว่าคงต้องหาแม่ของลูกก่อนนะ มาร์คว่าเขาคิดว่าเขาพบแล้ว และพบมานานแล้วด้วย ทั้งคู่รับรู้ใจตัวเองและความรู้สึกลึก ๆ ของคำว่ารักในทันที งานนิทรรศการวันนั้นจึงอบอวลไปด้วยความสุขสมหวัง ทุกคนพร้อมแล้วทั้งกายและใจที่จะก้าวสู่บทบาทใหม่ที่มีความสำคัญที่สุดอีกก้าวหนึ่งของชีวิตนั่น คือความเป็นพ่อและแม่

ละคร คือหัตถาครองพิภพ | ละครเก่า ละคอนดัง ช่อง 7 จารุณี สุขสวัสดิ์

หาเรื่องย่อละครเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ จำได้ว่าเคยดูตอนเด็กๆ แล้วชอบมาก

เพลงที่ร้องได้ติดปากอยู่ท่องนึงคือ คือหัตถาครองพิภพจบสากล อิอิ



ละคร ขิงก็ราข่าก็แรง | clipละคร ช่อง 7 แม่ไม่ปลื้ม













ณิช อมรเกียรติ์ นักข่าวสาวไฟแรง เธอเพิ่งเรียนจบนิเทศฯ และได้งานเป็นนักข่าวสมใจ ณิชมีพี่สาวชื่อ ภรณี ทั้งคู่กำพร้าพ่อ-แม่ ตั้งแต่อายุประมาณ 10 กว่าขวบ 2 พี่น้องจึงต้องมาอยู่ในความอุปการะของ แม่ชีสุดา น้องสาวของพ่อ แม่ชีสุดานั้นบวชตั้งแต่ยังสาว ด้วยศรัทธาในพระพุทธศาสนาอย่างแท้จริง แม่ชีพา ณิชและภรณีไปอยู่โรงเรียนประจำ และพยายามส่งเสียให้ดีที่สุด แต่ก็เป็นภาระแทบจะเกินกำลังของแม่ชีที่ไม่มีรายได้อะไรมากนัก แม้ทั้งคู่จะเรียนเก่งจนได้ทุนเรียนดีทั้งคู่ทุกปี แต่เมื่อต้องเรียนระดับอุดมศึกษา ภรณีก็ตัดสินใจเสียสละให้ณิช ภรณีเลือกเรียนสายวิชาชีพ ภรณีทำงานและเรียนไปด้วย เพื่อช่วยส่งเสียให้ณิชซึ่งสอบเข้ามหาวิทยาลัยในคณะนิเทศศาสตร์ เรียนจนจบ ณิชเองก็เรียนไปและทำงานไปด้วยเช่นกัน

ภรณีนั้นสวย อ่อนหวาน วันหนึ่งเธอมีโอกาสรู้จักกับ ไพรุต นักธุรกิจคราวพ่อ ไพรุต สนใจภรณี แม้ว่าเข้าจะแต่งงานแล้วกับ วรกานต์ แต่ชีวิตครอบครัวก็ไม่อบอุ่น ไพรุตและวรกานต์มีลูกสาวอยู่ในวัยใกล้เคียงกับภรณีชื่อ เพียงเพ็ญ ความสัมพันธ์ระหว่างไพรุตและภรณีพัฒนาอย่างรวดเร็ว ภรณีรักไพรุตและยอมเป็นเมียเขา ด้วยความที่ภรณีกำพร้าพ่อมาตั้งแต่เด็ก เธอจึงรู้สึกอบอุ่นและมีความสุขเมื่อยู่กับไพรุตมากกว่าหนุ่มๆ วัยเดียวกัน นอกจากนั้นเธอคิดว่าไพรุตนั้นรวยมาก คงจะช่วยผ่อนภาระในการส่งณิชให้เรียนได้จนจบ ที่แน่ๆคือความเป็นอยู่ของทั้งคู่ดีขึ้น ไพรุตเองก็รักและหลงภรณีไม่น้อย นอกจากความสาว ความสวยแล้ว ภรณียังอ่อนหวาน ช่างเอาใจ ปรนนิบัติเขาทุกอย่าง ต่างกับวรกานต์อย่างลิบลับ วรกานต์นั้นอารมณ์ร้าย เอาแต่ใจและขาดเหตุผล รวมทั้งขี้หึงอีกต่างหาก ยิ่งอายุมากวรกานต์ก็อารมณ์ร้ายมากขึ้น ที่ไพรุตเบื่อและหนักใจก็คือวรกานต์เริ่มติดการพนัน เธอสามารถอยู่ในบ่อนได้เป็นวันๆ โดยไม่เบื่อ







วรกานต์นั้นไม่เดือดร้อนเรื่องเงิน เพราะพ่อ-แม่ทิ้งมรดกไว้ให้มหาศาล อีกทั้งไพรุตเองก็เป็นนักธุรกิจที่เก่งและขยัน ฐานะทางการเงินของครอบครัวนี้จึงมั่นคงมาก แต่ไพรุตกับเพียงเพ็ญก็อยากให้วรกานต์เลิกเล่นการพนัน ทั้งคู่รู้ดีว่าการพนันมีแต่จะทำให้ชีวิตตกต่ำ เงินมีมากเท่าใดก็หมดได้ถ้าผีการพนันเข้าสิง ไพรุตกับเพียงเพ็ญขอร้องจนเหนื่อย วรกานต์ก็ไม่ยอมเลิก แม้จะเคยถูกตำรวจจับบ่อยครั้งแค่ไหนก็ตาม เพราะไพรุตก็ต้องตามไปประกันตัวและใช้อิทธิพลทุกอย่างเพื่อปิดข่าว ทั้งหมดก็เพราะเพียงเพ็ญลูกสาวคนเดียวเท่านั้น เมื่อไพรุตมีภรณีซึ่งแตกต่างกับวรกานต์ราวฟ้ากับดิน เขาจึงรักภรณีมาก

ไพรุตซื้อบ้านหลังเล็กๆ น่ารักให้ภรณีอยู่กับณิช ด้วยความเขี้ยวและเค็มตามประสานักธุรกิจ ไพรุตไม่ยอมโอนบ้านให้เป็นชื่อของภรณี เรื่องนี้ณิชเคยหมั่นไส้พี่เขยที่งกทั้งที่รวย ภรณีเองก็แสนจะน่ารัก ดูแลเอาใจใส่สารพัด ด้วยความรักพี่สาวณิชจึงไม่ค่อยชอบไพรุตมากนัก ทั้งที่รู้ว่าเขามีบุญคุณที่ซื้อบ้านใหภรณีและเธอได้อยู่กันอย่างสบาย เมื่อณิชเรียนจบและได้งานทำ เป็นนักข่าวของหนังสือพิมพ์เล็กๆฉบับหนึ่ง เธอจึงภูมิใจมาก ส่วนไพรุตเองก็ไม่ค่อยชอบณิชเช่นกัน เพราะณิชคล่องแคล่ว ฉลาดเหมือนจะรู้ทันเขาทุกอย่าง อีกประการหนึ่งณิชค่อนข้างแข็งกระด้าง เธอชอบใส่เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งและกางเกงยีนส์เพื่อความคล่องตัวในการทำงาน แต่ไพรุตมองเหมือนเป็นผู้ชายมากกว่า

ภรณีเองในฐานะคนกลางหนักใจกว่าใคร เธอรักไพรุตมากและรู้ว่าณิชนั้นเป็น “สาวมั่น” อาจจะดูแข็งกระด้างแต่จริงๆ แล้วณิชมีเมตตาและอ่อนโยนเสมอกับคนที่ดีกับเธอ ประเภทใครดีก็ดีด้วย ใครร้ายก็ร้ายตอบและค่อนข้าง “ปากจัด” ณิชไม่พูดหยาบคาย แต่คำพูดของเธอก็เชือดเฉือนเหน็บแนม ให้คู่กรณีต้องขาดสติอาละวาดได้เสมอ เมื่อหลานสาวในอุปการะโตและดูแลรับผิดชอบตัวเองได้ แม่ชีสุดาก็มักเดินทางไปปฏิบัติธรรมที่ต่างจังหวัดบ่อยๆ ในเรื่องของภรณีเมื่อภรณีพาไพรุตมากราบเชิงสู่ขอ แม่ชีเองไม่สบายใจเพราะไม่อยากเห็นหลานต้องผิดศีล ทว่าเมื่อภรณีสมัครใจ แม่ชีก็รู้ได้ว่าเป็นกรรมของเธอเอง

นอกจากการไปปฏิบัติธรรมต่างจังหวัดแล้ว ถ้าพอมีเวลา แม่ชีสุดามักจะไปที่โรงพยาบาลโรคจิต เธอไปช่วยดูแลคนไข้ทั้งหมด มีคนไข้หญิงวัยกลางคนชื่อ รุ่งทิพย์ ซึ่งดูจะถูกอัธยาศัยกับแม่ชีมากเป็นพิเศษ โดยปกติแล้วรุ่งทิพย์จะไม่ค่อยพูดกับใครแม้กับหมดและพยาบาล แต่กับแม่ชีสุดาแล้ว รุ่งทิพย์ยอมคุยด้วยนานๆ รุ่งทิพย์ต้องมารักษาอาการทางจิตก็เพราะความเจ้าชู้ของสามี รุ่งทิพย์แต่งงานกับ สารนาถ พิเศษพงศ์ นักธุรกิจชื่อดัง มีกิจการเดินเรือสินค้าและเรือท่องเที่ยวระหว่างประเทศ ด้วยความที่รุ่งทิพย์เป็นคนจริงจังกับชีวิต ในช่วงหนึ่งที่สารนาถหลงไปกับความมีชื่อเสียงและเงินทอง เมื่อร่ำรวยและรูปหล่อสารนาถจึงมีผู้หญิงสนใจมากมายแม้จะรู้ว่าเขาแต่งงานและมีลูกแล้ว






รุ่งทิพย์ทนพฤติกรรมเจ้าชู้ของสามีไม่ไหว เธอจึงปิดกั้นตัวเองไม่พูดจากับใคร เหม่อลอย อยู่ในโลกของเธอตามลำพัง สารนาถตกใจและเสียใจมากที่รุ่งทิพย์ต้องเป็นอย่างนี้ เขาหยุดความเป็นเพลย์บอยทุกอย่าง ส่งรุ่งทิพย์มารักษาตัวอย่างเต็มที่ และเลี้ยง ปวีร์ ลูกชายคนเดียวอย่างสุดความสามารถ สารนาถมัวแต่มุ่งมั่นทำงานโดยมี วศิน น้อยชายเป็นผู้ช่วยจนกิจการเจริญรุ่งเรือง ปวีร์เองก็เรียนจบจากต่างประเทศ และกลับมาช่วยบิดาทำงานอย่างตั้งใจ ทั้งสารนาถและปวีร์จึงมาเยี่ยมรุ่งทิพย์น้อยครั้งมาก ในช่วงระยะเวลาสิบกว่าปีที่เธอเข้าโรงพยาบาล รุ่งทิพย์ปลื้มใจกับปวีร์มากที่สุด เธอมักจะย้ำกับเขาเมื่อเขามาเยี่ยมว่า อย่าเจ้าชู้เป็นอันขาด ลูกของเธอต้องเป็นสุภาพบุรุษและไม่เจ้าชู้ ในเรื่องความเกลียดความเจ้าชู้นั้นแม่ชีสุดาทราบดี เพราะเป็นเรื่องที่รุ่งทิพย์พูดซ้ำซาก แม้อาการด้านอื่นจะดีขึ้น แต่ในเรื่องความฝังใจในความเจ้าชู้ของสารนาถยังฝังใจรุ่งทิพย์เสมอ

วันหนึ่งณิชต้องอยู่เวรที่โรงพิมพ์ เพื่อเตรียมทำข่าว เผื่อมีเหตุการณ์ คืนนั้น ดึกมากแล้วเมื่อ ภัทรา เพื่อนสนิทโทรมาบอกว่ามีข่าวใหญ่ให้ณิชมาพบเธอโดยเร็ว เป็นอุบัติเหตุร้ายแรงของคนดังระดับประเทศ ณิชรีบไปทันทีพร้อมกล้องคู่ใจ ณิชอึ้งเมื่อถึงที่เกิดเหตุ รถ 2 คันชนประสานงากันอย่างแรง รถเบนซ์สีขาวคันหรูยับย่นไปครึ่งคันราวกับกระดาษ คนขับตายทั้งคู่ ณิชไปถึงเมื่อหน่วยกู้ภัยเริ่มทำงานแล้ว เธอถ่ายรูปอย่างรวดเร็วก่อนที่ตำรวจจะมา ภัทราบอกเธอย่างมั่นใจว่าคนขับรถเบนซ์คือ “สารนาถ พิเศษพงศ์” นักธุรกิจคนดัง ณิชพยายามถ่ายภาพคนขับแต่ก็ยากเต็มที อีกประการสภาพศพก็ทำให้ดูลำบาก ณิชเชื่อว่าภัทราจำสารนาถได้ เพราะภัทราเป็นคนที่ชอบอ่านประวัติชีวิตคนดัง นักธุรกิจ มหาเศรษฐี และจำแม่นมากเข้าขั้นแฟนพันธุ์แท้คนหนึ่ง ณิชเชื่อสนิทใจเธอรีบกลับโรงพิมพ์เขียนข่าว ส่งภาพ ตามหน้าที่อย่างรวดเร็ว ที่ “บ้านพิเศษพงศ์” เช้าวันรุ่งขึ้น ทั้งสารนาถ ปวีร์ และวศินต้องปวดหัวเพราะมีโทรศัพท์มาแสดงความเสียใจ และถามข่าวตลอดเวลา

สารนาถโกรธมากที่หนังสือพิมพ์ฉบับนั้น (ที่ณิชทำงานอยู่) ลงข่าวผิดพลาด เขาถือว่าทำให้ธุรกิจของเขาต้องได้รับผลกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง สารนาถสั่งให้ปวีร์จัดการเรื่องนี้โดยเร็วและเฉียบขาดที่สุด ปวีร์เองก็โกรธมากเช่นกัน ที่นักข่าวที่ทำข่าวขาดความรับผิดชอบ เขาติดต่อบรรณาธิการและยื่นคำขาดให้จัดการกับเรื่องนี้ บก.พยายามขอโทษและรับว่าจะรีบลงแก้ข่าวให้โดยเร็ว แต่ปวีร์ก็ยังไม่พอใจ เขาขู่ไปว่าถ้าขืนยังรับนักข่าวอ่อนหัดอย่างนี้ หนังสือพิมพ์คงต้องถูกฟ้องรายวันแน่ ปวีร์พูดแกมขู่จน บก. รับปากว่าจะไล่นักข่าวต้นเหตุออกจากงาน

ส่วนณิชนั่งรออยู่ที่กองบก. อย่างกระวนกระวาย เธอเจ็บใจที่ทำงานพลาดและพร้อมที่จะรับโทษ ณิชมีเพื่อนรุ่นพี่หลายคนที่เข้าใจและเห็นใจเธอ ยกเว้น เบญจรัตน์ นักข่าวสาวรุ่นพี่ที่หมั่นไส้ณิชมานานและรอโอกาสที่ณิชจะพลาดอย่างนี้อย่างสะใจ เบญจรัตน์จึงพูดจาเหน็บแนมกระทบกระแทกจนณิชแทบทนไม่ไหว เบญจรัตน์บอกว่าโทษร้ายแรงอย่างนี้ บก.คงไล่ณิชออกแน่ ณิชใจหาย แต่เมื่อ บก.บอกเธอว่าเขาจำเป็นต้องไล่เธอออก เพราะปวีร์ลูกชายสารนาถไม่ยอมจบเรื่องและรับคำขอโทษใดๆ ทั้งสิ้น จนกว่าจะไล่เธอออกจากงาน ณิชเจ็บใจมากขึ้นเมื่อเห็นท่าทางสะใจของเบญจรัตน์ จะอย่างไรก็ตามณิชตัดสินใจที่จะไปขอโทษสารนาถ เธอพร้อมจะรับผิดชอบในการกระทำของเธอเสมอ

เย็นวันนั้นณิชจึงไปดักรอสารนาถที่หน้าบ้าน เมื่อรถเบนซ์สีขาวคันหรูแล่นมา ณิชก็กระโดดขวางหน้าทันที ปวีร์ลงจากรถโดยที่สารนาถและวศินอยู่ในรถ เมื่อปวีร์รู้ว่าสาวห้าวทอมๆ คนนี้ชื่อณิช เขาก็ไม่ฟังอะไรอีก เขาไล่เธอด้วยถ้อยคำรุนแรง จนณิชโกรธย้อนกลับแรงๆบ้าง ณิชโกรธมากขึ้นเมื่อปวีร์กลับขึ้นรถและขับรถเข้าบ้านอย่างไม่สนใจเธออีก ณิชโกรธที่ปวีร์ทำเหมือนเธอไม่ใช่คน เรื่องดูหมิ่นเกียรติ ศักดิ์ศรี และเคารพความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกันนี้ ณิช “ถือ” มาก เธอจะโต้ตอบกลับอย่างรุนแรงทุกครั้งที่ถูกทำเหมือนดูถูก วันรุ่งขึ้นณิชไปขอพบสารนาถหรือ ปวีร์ที่บริษัทฯ แต่เลขาของทั้งคู่ไม่ยอมให้พบ เพราะปวีร์สั่งห้ามอย่างเด็ดขาด

ณิชรออย่างอดทนที่มุมรับแขกหน้าห้องทำงานของสารนาถและปวีร์ ระหว่างรอเธอเห็นไพรุตมากับเพียงเพ็ญ เสียงพูดคุยของทั้งคู่ทำให้ณิชรู้ว่าเพียงเพ็ญเป็นลูกของไพรุต ณิชมองเพียงเพ็ญอย่างนึกชมที่หญิงสาวแต่งตัวเก๋ ดูเป็นสาวหวานและมีบุคลิกมั่นใจ ไพรุตแยกไปพบสารนาถ ส่วนเพียงเพ็ญเดินเข้าห้องปวีร์อย่างคุ้นเคย ณิชนั่งรออย่างอดทน แม้เลขาของปวีร์จะมาบอกเธอว่าให้กลับไปก่อน เพราะปวีร์คงไม่เสร็จธุระง่ายๆ แต่ณิชปฏิเสธ ในห้องทำงานของสารนาถ ไพรุตถามเรื่องข่าวหนังสือพิมพ์อีก ทำให้สารนาถโมโหบอกว่าปวีร์จัดการเรียบร้อยแล้ว นักข่าวชื่อณิชถูกไล่ออกแต่ก็พยายามมาพบเขา ซึ่งสารนาถและปวีร์คิดว่าคงมาขอร้องให้ช่วยเรื่องงาน ซึ่งทั้งสารนาถและปวีร์ไม่ต้องการให้ณิชมาวุ่นวายกับชีวิตของเขาอีก ชื่อของณิชทำให้ไพรุตเอะใจว่าจะเป็นน้องของภรณี ส่วนปวีร์และเพียงเพ็ญนั้น ความสัมพันธ์ของทั้งคู่เป็นที่รู้กันทั่วไป ทั้งบริษัทฯและแวดวงไฮโซว่าเป็น “แฟน” กัน เพียงเพ็ญรักปวีร์มากและมั่นใจว่าเขาก็รักเธอเช่นกัน แม้ปวีร์จะไม่เคยบอกรักเลย ทั้งคู่คุยกันอยู่นานจนถึงเวลาอาหารกลางวัน ปวีร์จึงชวนเพียงเพ็ญเดินออกมาหาสารนาถเพื่อรับออกไปกินข้าว เพียงเพ็ญคลอเคลียปวีร์ไม่ห่าง เหมือนจะประกาศให้สาวๆ เลขาหน้าห้องรู้ว่าเธอเป็นแฟนของปวีร์

ก่อนถึงห้องสารนาถ ณิชฉวยโอกาสเดินมาหาปวีร์อย่างค่อนข้างจะจู่โจม เธอกลัวว่าจะพลาดโอกาสได้พบเขา การพรวดพราดเข้ามาของณิชทำให้ทั้งคู่ตกใจ ปวีร์โกรธณิชและไล่เธออีกอย่างรุนแรง เพียงเพ็ญมองณิชที่แต่งตัวตามสไตล์ถนัดคือเสื้อเชิ้ตและกางเกงยีนส์อย่างดูถูกว่าเธอเป็น “นักข่าวกระจอก” จริงๆ ปวีร์ยิ่งเสียงดังมากขึ้นเมื่อณิชไม่ยอมไปง่ายๆ เธอพยายามพูดกับปวีร์อย่างใจเย็น และขอให้เขาฟังเธอบ้าง ทว่าปวีร์ไม่ยอมแถมยังสั่งให้ รปภ.มาลากตัวเธอออกไปจากบริษัทฯ อีกต่างหาก การกระทำที่รุนแรงของปวีร์ยิ่งทำให้ณิชเกลียดและอยากเอาชนะมากขึ้นอีก เย็นนั้นไพรุตแวะมาหาภรณี เมื่อพบณิชเขาพูดดูถูกกึ่งตำหนิในความดื้อและการทำงานที่สะเพร่าของเธอ แถมยังซ้ำเติมว่าการที่เธอถูกไล่ออกจากงานนั้นเหมาะสมแล้ว คำพูดของไพรุตยิ่งทำให้ณิชยิ่งแค้น เธอขยับปากจะตอบโต้เขาบ้าง ทว่าเมื่อเห็นสีหน้าอึดอัดใจ และแววตาขอร้องของพี่สาว ณิชก็ตัดใจเดินหนีเข้าห้องส่วนตัว เธอไม่อยากให้ภรณีต้องเสียใจหรือมีเรื่องทะเลาะกับไพรุตเพราะเธอ ณิชรู้ว่าภรณีรักไพรุตมาก

เวลาผ่านไปปวีร์ดีใจที่ณิชไม่ได้ตามตอแยหรือวุ่นวายกับเขาและบิดาอีก ปวีร์ไม่รู้ว่าณิชนั้นเป็นคนที่ดื้อ มุ่งมั่น และเอาจริงมากแค่ไหน เมื่อตั้งใจจะทำอะไรแล้ว เธอต้องทำให้ได้ ณิชไปสืบจากภัทราจนรู้ว่า สารนาถกับปวีร์ชอบมาออกกำลังที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่งทุกวันหยุด ดังนั้นเช้ามืดวันเสาร์ ณิชในชุดกีฬาจึงไปซุ่มรออยู่ที่บริเวณหน้าสวนสาธารณะแห่งนั้น ปวีร์พาสารนาถมาจริงๆ ตอนแรกปวีร์และสารนาถวิ่งเบาๆ ไปด้วยกันสักพักหนึ่ง ปวีร์ก็เร่งความเร็ววิ่งนำหน้าบิดาไปสารนาถนั้นอายุมากแล้ว แม้จะแข็งแรงกว่าคนวัยเดียวกัน แต่ก็สู้ลูกชายไม่ได้

ณิชเดินแกมวิ่งมาห่างๆ เมื่อเห็นว่าปวีร์วิ่งห่างสารนาถไปไกลมากแล้ว ณิชก็วิ่งขึ้นมาคู่กับสารนาถทันที ณิชทักสารนาถอย่างสนใส สารนาถตกใจที่จู้ๆณิชก็วิ่งมาใกล้ เขาหยุดวิ่งและมองเธออย่างรำคาญ ทว่าณิชทำให้เขาแปลกใจมากขั้น เมื่อเธอบอกว่าเธอมาดักรอเขาเพื่อจะขอโทษที่ลงข่าวผิดพลาด ทำให้เขาเสียหาย ณิชไหว้สารนาถอย่างอ่อนโยนและเรียบร้อย ผิดกับท่าทางห้าวและเปรี้ยวที่สารนาถเคยพบ ท่าทางณิชดูจริงใจจนสารนาถเชื่อและยอมให้อภัย เธอก็สบายใจ ณิชทำท่าจะวิ่งจากไปแต่สารนาถกลับชวนคุยว่าเธอรู้ได้อย่างไร ว่าเขาและปวีร์ชอบมาที่นี่

ณิชยิ้มให้อย่างแจ่มใส ตาเป็นประกาย ก่อนจะบอกว่าอาชีพของเธอคือนักข่าว เรื่องแค่นี้ถ้าทำไม่ได้เธอก็ไม่ควรเป็นนักข่าวอีกต่อไป ณิชเอ่ยปากลาอีกครั้ง ทว่าอะไรบางอย่างในตัวณิชทำให้สารนาถนึกเอ็นดู เขาชวนเธอวิ่งเบาๆต่อไปด้วยกัน ณิชทำตามอย่างดีใจ เธอถือว่านี่คือการยอมรับคำขอโทษและให้อภัยเธออย่างแท้จริง ณิชรักษาจังหวะวิ่งให้พอดีกับสารนาถและคอยชำเลืองดู เผื่อสารนาถจะเหนื่อยเกินไป เธอดูแลเขาเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ส่วนปวีร์เมื่อรู้สึกตัวว่าวิ่งห่างจากบิดามากเกินไป เขาก็วิ่งย้อนกลับมาด้วยความเป็นห่วง ภาพของณิชที่วิ่งคู่อยู่กับสารนาถ ทำให้ ปวีร์โกรธขึ้นมาอีก ในสายตาของเขาแล้วณิชคือตัวป่วน ตัวอันตราย สำหรับเขาและบิดา

ปวีร์วิ่งกลับมาหาสารนาถด้วยสีหน้าบึ้งตึง เมื่อถึงตัวสารนาถ ณิชก็ยิ้มยั่วปวีร์อย่างผู้ชนะก่อนจะหันไปลาสารนาถอีกครั้ง พูดยิ้มๆว่าคราวนี้คงต้องไปจริงๆ ก่อนที่ปวีร์จะจับเธอหักเป็นท่อนๆ ณิชวิ่งจากไปอย่างรวดเร็ว ปวีร์ทำท่าจะวิ่งตามไปเอาเรื่องกับเธอ แต่สารนาถกลับห้ามไว้ สารนาถดูอารมณ์ดีจนปวีร์แปลกใจ สารนาถบอกปวีร์ว่าเข้าใจณิชผิดไป จริงๆ แล้วณิชเพียงต้องการขอโทษเท่านั้น เขาชมณิชให้ปวีร์ฟังอีกว่า ณิชเป็นคนที่มุ่งมั่น เอาจริงเอาจัง รับผิดชอบเกินอายุ ปวีร์ฟังอย่างไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ ระหว่างที่ณิชตกงาน เธอจึงมีเวลาไปกราบแม่ชีบ่อยขึ้น แม่ชีจึงชวนณิชไปโรงพยาบาลโรคจิตเพื่อทำบุญ แม่ชีบอกว่าเป็นการทำบุญอีกรูปแบบหนึ่ง และตัวณิชจะได้รู้สึกดีขึ้น เมื่อพบพวกเขา ณิชตามแม่ชีไปอย่างเต็มใจ ระหว่างที่แม่ชีติดต่อกับเจ้าหน้าที่ ณิชนั่งรออยู่มุมหนึ่ง มองบรรยากาศทั่วๆ ไป ภาพของคนไข้ที่นั่งเหม่อหรือนั่งพูดคนเดียว เหมือนมีโลกส่วนตัวอย่างสนใจ ณิชนั่งเพลินจนเห็นรถเบนซ์สีขาวที่คุ้นตาแล่นเข้ามาในโรงพยาบาล เธอจำได้ว่าเป็นรถของสารนาถ

ณิชหลบไปแอบมองจนเห็นว่าทั้งสารนาถและปวีร์มาด้วยกัน วิญญาณนักข่าวเข้าสิงทันที เธอแอบเดินตามทั้งคู่ไปจนถึงห้องพักของรุ่งทิพย์ สารนาถ ปวีร์ และหมอเข้าไปในห้อง ณิชรีบไปดูชื่อคนไข้อย่างว่องไว เสียงพูดคุยในห้องทำให้ณิชงง เพราะเสียงรุ่งทิพย์ไล่สารนาถอย่างเกรี้ยวกราดเกลียดชัง ขณะที่สารนาถพยายามง้อ เสียงปวีร์ที่เรียกรุ่งทิพย์ว่า “แม่” ทำให้ณิชยิ่งงง รุ่งทิพย์เรียกปวีร์ว่าลูกอย่างสุดรักสุดหวง เธอเขย่งดูตรงช่องประตูอย่างสนใจ เธอจำได้ว่าสารนาถเคยให้สัมภาษณ์ว่าเป็นม่าย ภรรยาตายไปหลายปีแล้ว ก็ถ้าเป็นอย่างนั้นผู้หญิงในห้องนี้เป็นใคร ณิชเขย่งดูอย่างสนใจ จังหวะพอดีที่รุ่งทิพย์เกรี้ยวกราดไล่สารนาถอีก ปวีร์พาสารนาถออกมา ณิชรีบหาทางหลบอย่างตกใจแต่ไม่ทัน ปวีร์และสารนาถเห็นเธอเต็มตา ปวีร์โกรธอย่างบอกไม่ถูก ยิ่งเห็นกล้องถ่ายรูปและเทปในมือของณิช ปวีร์และสารนาถเข้าใจผิดว่าณิชแอบตามเขามา

ปวีร์ก้าวเข้ามาหาณิชอย่างพร้อมจะอาละวาด ณิชจึงแกล้งยกกล้องถ่ายรูปขึ้น เธอกดแฟลชเฉยๆติดๆกัน ปวีร์และสารนาถยกมือปิดหน้าให้ชุลมุนไปหมด ณิชฉวยโอกาสวิ่งหนี แต่ปวีร์ก็ตามจนทัน เขาขอฟิล์มจากเธออย่างคุกคามข่มขู่ ณิชซึ่งเกลียดปวีร์อยู่แล้วก็ยิ่งยั่วและไม่ยอมให้ เธอถูกเขาผลักจนกระเด็นหงายหลังก้นกระแทกอย่างแรง ณิชเจ็บร้าวไปทั้งหลัง แต่ก็กัดฟันลุกขึ้นโวยวายเมื่อเห็นปวีร์เปิดกล้องกระชากม้วนฟิล์มและดึงออกมาอย่างสะใจ ก่อนจะโยนกล้องถ่ายรูปคืนให้เธอ ณิชโกรธจนอยากจะฆ่าปวีร์ให้ตายคามือ เธอแค้นมากและหาทางแก้แค้นปวีร์ อย่างชนิดที่ปวีร์ต้องจำไปจนตาย

รุ่งขึ้นณิชไปขอพบปวีร์ เมื่อเลขาทำท่าจะไม่ให้พบ เธอก็บอกเลขาให้ไปบอกปวีร์ว่าถ้าไม่ยอมพบเธอในวันนี้ “ตระกูลพิเศษพงศ์” ได้ดังทั้งเมืองแน่ ณิชเตรียมปะทะกับปวีร์ คำขู่ของเธอได้ผล ปวีร์ยอมให้เธอพบเขา เมื่อพบกันปวีร์ขอซื้อข่าวเรื่องมารดาทันที แต่ณิช กลับยั่วยอกย้อน บอกว่าเธอยังไม่ได้คิดจะเขียนตอนนี้ แต่ที่มาก็เพื่อค่าชดใช้สำหรับฟิล์ม ปวีร์กัดฟันเปิดกระเป๋าหยิบเงินโยนให้เธอประมาณ 500 บาท แต่ณิชไม่ยอมเธอต้องการ 5,000 บาท ปวีร์กัดฟันหยิบให้และพยายามรวบรัดว่า 5,000.- นี้เป็นค่าข่าว ทว่าณิชไม่ยอมรับปาก เธอยั่วโมโหจนปวีร์แทบคลั่ง ณิชไปกราบแม่ชีอย่างอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เธอส่งเงิน 5,000.- ให้แม่ชีและบอกว่าเป็นเงินบริจาคซ่อมหลังคาอุโบสถ ณิชขอให้แม่ชีออกใบอนุโมทนาบัตรในนามของ “ปวีร์ พิเศษพงศ์”

เรื่องที่ณิชบังเอิญพบกับสารนาถและปวีร์ที่โรงพยาบาลโรคจิต กลายเป็นเรื่องใหญ่อย่างไม่น่าเป็นไปได้ สารนาถกลัวว่าณิชจะทำข่าว จึงบอกไพรุตซึ่งเคยหลุดปากบอกเขาว่ารู้จักณิช ให้ไปขอร้องณิชว่าอย่าทำข่าวเรื่องนี้ ไพรุตไปขู่ภรณี เรื่องจึงวนกลับมาหาแม่ชีสุดาอีกจนได้ แม่ชีให้ณิชมาพบและพาเธอไปพบกับรุ่งทิพย์ ทั้งที่คราวก่อนณิชยังไม่มีโอกาสพบกับรุ่งทิพย์ด้วยซ้ำไป สภาพของรุ่งทิพย์ทำให้ณิชอึ้นด้วยความสงสารจับใจ แม่ชีปล่อยให้ณิชคุยกับรุ่งทิพย์ตามลำพัง ด้วยความอ่อนโยนและมีเมตตาอยู่ในใจอยู่แล้ว ณิชจึงคุยกับรุ่งทิพย์อย่างอ่อนโยน อบอุ่น เธอหาเรื่องสนุกๆ มาคุยให้รุ่งทิพย์ฟัง จนรุ่งทิพย์ติดใจ อารมณ์แจ่มใสเป็นพิเศษ

รุ่งทิพย์บอกให้ณิช มาหาเธอบ่อยๆ ระหว่างนั่งรถกลับวัดกับแม่ชี ณิชเงียบขรึมอย่างผิดปกติ เมื่อถึงวัดณิชบอกแม่ชีว่าเธอสงสารรุ่งทิพย์มาก และจะไม่ทำข่าวเรื่องรุ่งทิพย์เด็ดขาด การที่ได้คุยกับรุ่งทิพย์ทำให้ณิชเกลียด สารนาถและปวีร์มากขึ้นไปอีก เมื่อรุ่งทิพย์เล่าให้เธอฟังว่า 2 พ่อลูกไม่ค่อยจะมาเยี่ยมเธอ ณิชเข้าใจดีว่ารุ่งทิพย์ขาดความรัก ความอบอุ่นทางใจมาก โดยเฉพาะจากสามีและลูกชาย เวลาผ่านไปณิชไปเยี่ยมรุ่งทิพย์แทบทุกอาทิตย์ ความช่างคุยและอ่อนโยนของณิช ทำให้อาการของรุ่งทิพย์ดีขึ้นเรื่อยๆ จนเรียกได้ว่าสามารถกลับไปอยู่บ้านได้ สารนาถและปวีร์รู้ข่าวจากหมอที่รักษารุ่งทิพย์อย่างดีใจ ทว่าเมื่อสารนาถและปวีร์ไปรับเข้าจริงๆ รุ่งทิพย์กลับไม่ยอมกลับบ้าน ณิชแวะไปเยี่ยมตามปกติพร้อมหนังสือธรรมะจากแม่ชี


ณิชชะงักเมื่อเห็นสารนาถและปวีร์อยู่ในห้อง ณิชกำลังจะหลบทว่ารุ่งทิพย์เห็นเสียก่อน เธอเรียกณิชมาหาอย่างคุ้นเคยและดีใจ ปวีร์ตะลึงมองภาพรุ่งทิพย์กอดณิชด้วยความรักและเอ็นดู เขานึกว่าฝันไป เพราะณิชเองก็ดูอ่อนโยนกับรุ่งทิพย์ ราวกับเป็นคนละคนกับนักข่าวสาวห้าว จอมบู๊ จอมกวนที่เขารู้จัก ตกลงวันนั้นรุ่งทิพย์ไม่ยอมออกจากโรงพยาบาล เธอคงยืนยันว่าเกลียดสารนาถ คำพูดของรุ่งทิพย์ทำร้ายจิตใจของสารนาถมาก เขารู้สึกผิดและอยากรับรุ่งทิพย์กลับมาอยู่บ้าน สารนาถให้ปวีร์ขอร้องให้ณิชช่วย ปวีร์ฝืนใจทำตามคำขอของบิดา ทว่าณิชปฏิเสธ ไม่ใช่เพราะเล่นตัว เธออยากให้สารนาถและปวีร์พิสูจน์ความรัก ความจริงใจให้รุ่งทิพย์รู้ด้วยตัวเองมากกว่า

ทว่าปวีร์ไม่เข้าใจ ทั้งคู่ทะเลาะกันอีกจนได้ ทั้งที่ปวีร์อุตส่าห์เลือกสถานที่ในการคุยธุระสำคัญเป็นร้านอาหารหรู บรรยากาศดี ตัวณิชเองก็แต่งตัวสวยน่ารัก ดูเผินๆทั้งคู่เป็นหนุ่มสาวคู่รักที่เหมาะสมกันมาก ปวีร์โชคไม่ดีที่เบญจรัตน์บังเอิญมาพบเข้า เธอเข้าใจผิดปวีร์ อยากรู้อยากเห็น ณิชจึงแกล้งทำยั่วประสาทด้วยการทำสวีทกับปวีร์เป็นพิเศษ เธอปรามปวีร์ด้วยสายตาว่าถ้าเขาขัดคอเธอ เรื่องของรุ่งทิพย์เป็นอันจบกัน ปวีร์แทบคลั่งเพราะรู้ว่าเบญจรัตน์ต้องบอกเพียงเพ็ญแน่ๆ วันรุ่งขึ้นเพียงเพ็ญมาพบปวีร์และเลียบเคียงถามเรื่องณิชกับปวีร์ เขาปฏิเสธและบอกเพียงว่าเขามีธุระสำคัญจะพูดกับณิชเท่านั้น เมื่อณิชไม่ยอมตกลงกับปวีร์ สารนาถจึงมาดักพบณิชเองที่บ้าน เขาขอร้องให้เธอช่วย และยอมรับว่าที่ผ่านมาเป็นความผิดของเขา แต่เขาก็เลิกหมดเมื่อรุ่งทิพย์ป่วย ณิชอ่อนยอมช่วยพูดกับรุ่งทิพย์

แต่เธอไม่แน่ใจว่าจะสำเร็จ สารนาถดีใจมากเขามั่นใจว่าณิชทำได้ เมื่อณิชไปพบรุ่งทิพย์ ชวนคุยและชวนเธอกลับบ้าน รุ่งทิพย์ไม่ยอมท่าเดียว จนณิชเกิดความคิดใหม่ชวนรุ่งทิพย์ไปอยู่บ้านเธอ รุ่งทิพย์ตกลงทันที ณิชคิดว่าทุกอย่างต้องค่อยเป็นค่อยไป เธอวางแผนให้สารนาถและปวีร์มาเยี่ยมรุ่งทิพย์บ่อยๆ สักวันหนึ่งรุ่งทิพย์คงยอมกลับ “บ้านพิเศษพงศ์” ณิชติดต่อบอกสารนาถ เขายอมรับตามข้อตกลง การที่รุ่งทิพย์ยอมออกจากโรงพยาบาลสารนาถก็พอใจแล้ว การเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับณิชทำให้ณิชบอกให้สานาถขออนุญาติ ไพรุตก่อน สารนาถจึงรู้ว่าภรณีพี่สาวของณิชเป็นเมียน้อยของไพรุต ในวันที่สารนาถและปวีร์ไปรับรุ่งทิพย์นั้นณิชไปด้วย ปวีร์มองภาพณิชกับรุ่งทิพย์อย่างไม่เข้าใจ ว่าทำไมมารดาจึงติดใจอะไรณิชนักหนา ปวีร์เข้าใจว่าณิชประจบประแจงเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง

ภรณีเกร็งเล็กน้อยเพราะรู้ว่ารุ่งทิพย์เกลียดผู้หญิงที่เป็น “เมียน้อย” มาก ณิชพยายามทำทุกอย่างให้เป็นปกติ เธอคอยปลอบภรณีให้เป็นตัวของตัวเอง ณิชมั่นใจว่าความอ่อนโยน อ่อนหวานของภรณีต้องชนะใจรุ่งทิพย์ได้ ส่วนรุ่งทิพย์พอใจและมีความสุขมาก เธอเข้ากับภรณีได้ดี ถึงแม้ได้รู้ความจริงในวันหนึ่งโดยบังเอิญ ปวีร์และสารนาถเครียดเพราะกลัวว่ารุ่งทิพย์จะช็อค ปวีร์ขู่ณิชว่าถ้ารุ่งทิพย์เป็นอะไรไปเธอต้องรับผิดชอบ ณิชเองก็ใจสั่น ลุ้นว่ารุ่งทิพย์จะรับสถานการณ์ได้หรือไม่ ทว่ารุ่งทิพย์กลับปรับตัวได้อย่างไม่น่าเชื่อ เธอยอมรับและเข้าใจภรณีเพราะความดีของ 2 พี่น้อง ความน่ารักของภรณีและณิชที่ดูแลเธออย่างดี ทำให้รุ่งทิพย์เกลียดภรณีไม่ลง ตรงกันข้ามเธอกลับสงสารและเห็นใจภรณีด้วยซ้ำไป ณิชยังคงสนุกกับงานและกลับมาดูแลรุ่งทิพย์ทุกเย็น

ถ้าปวีร์และสารนาถมาเธอจะหลบให้พ่อ-แม่-ลูก ได้อยู่ด้วยกัน เพียงเพ็ญรับรู้เรื่องรุ่งทิพย์ไปอยู่กับณิชอย่างร้อนใจ เธอไม่ต้องการให้ปวีร์และณิชใกล้ชิดกัน เพียงเพ็ญพยายามให้ปวีร์พาไปหารุ่งทิพย์ แต่ปวีร์เกรงใจไพรุตจึงไม่ยอมพาไป ส่วนวรกานต์ก็ติดบ่อนมากขึ้น เพียงเพ็ญพยายามให้มารดาเลิก วรกานต์กลับมีเงื่อนไขว่าไพรุตเลิกกับเมียน้อยได้เมื่อไหร่เธอก็จะเลิกเล่นไพ่ วันหนึ่งเธอไปเล่นการพนันตามปกติ เป็นวันที่เธอไม่มีโชคเลย วรกานต์เสียเงินจนหมด ทว่ายังไม่ยอมกลับบ้าน เธอวนเวียนดูการเล่นการพนันประเภทต่างๆ อย่างมันมือและอยากเล่น ถ้ามีเงินวรกานต์คงไม่ยอมพลาด เสียงเฮฮาจากวงไพ่วงหนึ่งทำให้วรกานต์สนใจ เธอเดินเข้าไปดูและตกใจเมื่อพบวศินนั่งเล่นไพ่อย่างสนุกสนาน ชิพตรงหน้าของเขากองโต วศินกำลังมือขึ้น เขาเล่นชนะทุกตาจนวงไพ่ต้องเลิกเพราะเขาเสียไพ่จนหมด วรกานต์มองวศินอย่างไม่เชื่อตา

เธอพบวศินหลายครั้ง เธอจำได้ว่าเขามีบุคลิกที่สุภาพ เนี้ยบ พูดจาเรียบร้อย ขยันทำงานซึ่งต่างจากตรงนี้ราวกับคนละคน ในบ่อนวศินคือนักพนันชั้นเซียนเลยทีเดียว วศินเก็บชิพบนโต้เพื่อไปแลกเงิน เขามีความสุขมากคืนนี้ แต่เมื่อหันกลับมาวศินก็พบวรกานต์ยืนมองอยู่ เธออยู่ใกล้เขามากจนวศินหลบไม่พ้น วรกานต์เป็นฝ่ายทักวศินก่อน ทั้งคู่คุยกันเล็กน้อยและเหมือนจะรู้ดีว่าเรื่องการพนันในบ่อนนั้นเป็นเรื่องที่ต้องเก็บเป็นความลับ ส่วนเพียงเพ็ญรุ่มร้อนเมื่อปวีร์ไม่ยอมพาเธอไปพบรุ่งทิพย์ ยิ่งมีแรงยุจากเบญจรัตน์ก็ทำให้เพียงเพ็ญคิดมาก เธอแอบขับรถตามปวีร์และสารนาถไปในวันหนึ่งจนรู้ที่อยู่ของรุ่งทิพย์ ทว่าก่อนกลับเธอเห็นไพรุตบิดาของเธอมาที่บ้านนี้ด้วย เพียงเพ็ญอึ้งเมื่อเห็นภรณีเดินออกมารับไพรุต และไพรุตเดินโอบภรณีเข้าบ้านไปด้วยกัน เพียงเพ็ญขับรถกลับบ้านอย่างสับสน บิดาของเธอรู้เห็นเป็นใจกับณิชและปวีร์ด้วยหรืออย่างไร ท่าทางของไพรุตกับภรณีชัดเจนว่าภรณีนี่เองคือเมียอีกคนของบิดา คืนนั้นเพียงเพ็ญนั่งรอไพรุตอย่าง อดทนจนดึก เพียงเพ็ญถามบิดาอย่างจริงจัง จนไพรุตต้องยอมรับว่าภรณีคือเมียของเขาอีกคนจริงๆ เพียงเพ็ญนึกสงสารวรกานต์ เพราะเมื่อเทียบกันแล้วภรณีได้เปรียบในทุกกรณี

เพียงเพ็ญรับปากไพรุตว่าจะไม่บอกวรกานต์เรื่องที่อยู่ของภรณี วันรุ่งขึ้นเพียงเพ็ญขับรถไปบ้านของภรณีเพื่อพบกับรุ่งทิพย์นั่นเอง ภรณีตกใจเมื่อเห็นเพียงเพ็ญ ถึงไม่เคยพบกันมาก่อนแต่ไพรุตก็มักจะเอารูปของเพียงเพ็ญและวรกานต์มาให้เธอดู เธอรู้ว่าไพรุตรักและปลื้มในตัวเพียงเพ็ญมาก ภรณีต้อนรับเพียงเพ็ญอย่างอ่อนหวานตามนิสัย ส่วนเพียงเพ็ญมีท่าทีดูถูกเมื่อเข้าไปในบ้าน เห็นการตกแต่งบ้านอย่างเรียบง่าย มีรสนิยม เธอก็ยิ่งหมั่นไส้ เธอวางอำนาจกับภรณี พูดจาข่มขู่ เหน็บแนม เสียงดัง โดยไม่รู้ว่ารุ่งทิพย์เดินลงมาจากห้องพักและได้ยินทุกคำ รุ่งทิพย์สงสารภรณีที่โดนต่อว่าอย่างรุนแรง จึงเข้ามาช่วย ส่วนเพียงเพ็ญเมื่อเห็นรุ่งทิพย์ก็มีท่าทางเปลี่ยนไปราวกับคนละคน เธอปรับท่าทีเป็นกุลสตรีผู้เรียบร้อยอ่อนหวาน และแนะนำตัวว่าเป็นใคร เธอบอกรุ่งทิพย์ว่าเธอเป็น “แฟน” ของปวีร์

เพียงเพ็ญเงียบกริบเมื่อรุ่งทิพย์พูดเรียบๆ ว่าปวีร์ไม่เคยบอกเธอว่ามีแฟนแล้ว และไม่เคยพูดถึงชื่อเพียงเพ็ญเลยสักคำ ท่าที่ห่างเหินมึนตึงของรุ่งทิพย์ทำให้เพียงเพ็ญไม่กล้าเข้ามาใกล้ชิดประจ๋อประแจ๋ด้วย รุ่งทิพย์แสดงให้เห็นชัดเจนว่าไม่ต้องการพบเธออีก เมื่อเพียงเพ็ญกลับไปแล้ว รุ่งทิพย์เกิดความคิดใหม่ขึ้นมาทันที เธอบอกภรณีว่าเธอต้องการให้ณิชแต่งงานกับปวีร์ และที่บอกภรณีก็เพราะเห็นว่าภรณีเป็นพี่สาว ภรณีอึดอัดใจมาก เธอรู้ดีว่าเรื่องนี้ต้องเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน ไพรุตรักลูกสาวมากคงไม่อยากเห็นลูกสาวผิดหวังแน่นอน และยังณิชอีกซึ่งประกาศตัวเป็นศัตรูกับปวีร์อย่างชัดเจน ณิชคงไม่ยอมแน่ ทว่ารุ่งทิพย์ยืนยันว่าเธอสามารถจัดการทุกอย่างได้เรียบร้อยแน่นอน เย็นวันนั้นณิชอยู่เวรที่โรงพิมพ์ จึงไม่รู้ว่ารุ่งทิพย์โทรศัพท์ตามปวีร์และสารนาถมาพบด่วน เมื่อพบกันรุ่งทิพย์ถามสารนาถว่าต้องการให้เธอกลับไปอยู่ “บ้านพิเศษพงศ์” หรือไม่ สารนาถตอบรับอย่างดีใจ ปวีร์เองก็ดีใจที่มารดาจะได้ออกจากบ้านนี้เสียที รุ่งทิพย์จึงบอกทั้งคู่อย่างเฉียบขาดว่าเธอจะยอมกลับบ้านก็ต่อเมื่อปวีร์แต่งงานกับณิช

ปวีร์โวยวายแต่รุ่งทิพย์ไม่ฟัง ปวีร์บอกว่าเขามีแฟนแล้วชื่อเพียงเพ็ญ เขากำลังจะพาเธอมาพบกับรุ่งทิพย์ รุ่งทิพย์กลับบอกว่าวันนี้เพียงเพ็ญมาที่นี่ เธอพบเพียงเพ็ญแล้วและไม่พอใจหญิงสาวมาก รุ่งทิพย์พูดอย่างมั่นใจว่าเพียงเพ็ญนั้นน้ำนิ่งไหลลึก ดูอ่อนหวานแต่ร้ายกาจ เธอชอบณิชมากกว่าที่ใสซื่อและตรงไปตรงมา ที่สำคัญคือมีความจริงใจถ้าปวีร์ไม่ยอมเธอก็ไม่ยอมกลับเช่นกัน และจะไปอยู่กับแม่ชีหรือกลับเข้าโรงพยาบาลอีกครั้งแทน ระหว่างทางกลับบ้านปวีร์มึนอีกรอบ เมื่อสารนาถขอร้องให้ตามใจรุ่งทิพย์ ดังนั้นเมื่อส่งสารนาถแล้ว ปวีร์จึงนัดเพียงเพ็ญออกมาเที่ยวเพื่อคลายเครียด เขาดื่มมากจนเพียงเพ็ญแปลกใจ เพราะปวีร์ไม่เคยดื่มจัดอย่างนี้ แต่แล้วปวีร์ก็แทบหายเมาเมื่อวศินโทรมาตามว่าสารนาถช็อคและอยู่ห้อง I.C.U. ปวีร์รีบตามไปโรงพยาบาลทันที เพียงเพ็ญขอตามไปด้วยแต่เขาไม่ยอม

เมื่อถึงโรงพยาบาลปวีร์รู้ว่าบิดาเป็นโรคหัวใจมานานแล้ว อาการค่อนข้างรุนแรง สารนาถอยากพบรุ่งทิพย์ ปวีร์ลังเลแต่ก็ยอมขับรถมาหามารดา เขาพบณิชและบอกณิชสั้นๆ ว่าสารนาถเป็นอะไรและอยากพบรุ่งทิพย์มาก เขาไม่กล้าบอกมารดากลัวเธอตกใจ ณิชรับปากจะจัดการให้ หญิงสาวค่อยๆบอกรุ่งทิพย์อย่างอ่อนโยน อ่อนหวาน แต่ก็พร้อมรับสถานการณ์หากรุ่งทิพย์เป็นอะไรไป ปวีร์กับณิชตกใจเมื่อรุ่งทิพย์ร้องไห้ เมื่อถึงเวลานี้เธอรู้ตัวแล้วว่ายังรักและผูกพันกับสารนาถอยู่มาก รุ่งทิพย์เร่งให้ปวีร์พาเธอไปโรงพยาบาล เธอชวนณิชไปด้วย เมื่อถึงโรงพยาบาลณิชรออยู่หน้าห้อง I.C.U. ปล่อยให้ปวีร์พารุ่งทิพย์ไปเยี่ยมสารนาถ ปวีร์อยากจะบ้าตายเมื่อทั้งพ่อและแม่ขอร้องแกมบังคับให้เขาแต่งงานกับณิช ปวีร์มาอาละวาดกับณิชว่าเธอใช้มารยาล่อหลอกให้มารดาหลงไหล เพื่อหวังเป็นสะใภ้เศรษฐี เขาดูถูกเธอมากจนณิชหมดความอดทน ส่วนเพียงเพ็ญรู้เรื่องปวีร์กับณิชอย่างโกรธจัด

ดังนั้นก่อนงานแต่งงานเธอจึงให้เบญจรัตน์ลงข่าวว่ารุ่งทิพย์ป่วยเป็นโรคจิตมาก่อน และโทษว่าเป็นฝีมือของณิช ปวีร์โกรธแทบจะฆ่าณิชได้และไม่ฟังคำอธิบายใดๆทั้งสิ้น ขณะที่รุ่งทิพย์และสารนาถไม่เชื่อ เหตุการณ์บีบคั้นจนณิชต้องตอบแต่งงานกับปวีร์ เพียงเพ็ญตามไปอาละวาดณิชในวันต่อมา เท่านั้นยังไม่พอ ไพรุตยังมาอาละวาดกับภรณีอีก ณิชโกรธจนถึงที่สุด เมื่อทั้งปวีร์ เพียงเพ็ญ ไพรุต ดูถูกเธอและทำร้ายจิตใจพี่สาวที่รัก ณิชจึงตอบโต้ด้วยการตอบรุ่งทิพย์และสารนาถว่าเธอยอมแต่งงานกับปวีร์ รุ่งทิพย์ดีใจมาก เธอยอมกลับ “บ้านพิเศษพงศ์” เตรียมห้องหอให้ลูกชายและลูกสะใภ้คนโปรดอย่างมีความสุข สารนาถเองก็อาการดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อภรรยาที่รักกลับมาบ้าน

คนที่ทุกข์ที่สุดคือปวีร์ ส่วนเพียงเพ็ญเสียใจอาละวาดฟูมฟายจนไพรุตทนไม่ได้ เขากลับมาบังคับให้ภรณีไปบังคับณิชให้เลิกล้มเรื่องแต่งงาน ยิ่งถูกบีบณิชก็ยิ่งสู้ เธอรั้นจะแต่งงานกับปวีร์ต่อไป ในคืนก่อนวันแต่งงาน เพียงเพ็ญใช้มารยาดึงปวีร์ไว้จนดึก เธอให้เขาดื่มจนเมาและคืนนั้นปวีร์ก็อยู่กับเพียงเพ็ญทั้งคืน ปวีร์ได้เพียงเพ็ญเป็นเมียเพราะความเมา เช้ารุ่งขึ้นงานหมั้นต้องล้มเลิกเพราะเจ้าบ่าวหายตัวไป ณิชแก้สถานการณ์อย่างใจเย็น เมื่อถึงงานเลี้ยงตอนค่ำ ณิชสวยงามสง่าผิดตาในชุดเจ้าสาว พลางลุ้นระทึกว่าปวีร์จะมาหรือไม่ เธอยิ้มอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้นเมื่อเพียงเพ็ญเดินกอดแขนปวีร์มาส่งให้ที่ห้องพักของคู่บ่าว-สาวเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ เพียงเพ็ญหวังจะทำให้ณิชเจ็บปวด แต่กลับถูกย้อนกลับอย่างรุนแรงแทน หลังการแต่งงานเพียงเพ็ญพยายามประกาศตัวเป็นเจ้าของปวีร์จนณิชโมโห แต่ไม่ร้านเท่าไพรุตไล่ภรณีออกจากบ้านและทอดทิ้งให้ภรณีอยู่คนเดียว ณิชจึงตอบโต้ด้วยการชวนปวีร์ไปฮันนีมูนที่สวิต ต่อหน้ารุ่งทิพย์และสารนาถ ซึ่งทั้งคู่พอใจมากจัดการเตรียมการให้ทุกอย่าง เพียงเพ็ญแทบคลั่งเมื่อรู้ว่าปวีร์ต้องไปฮันนีมูน เมื่อถึงสวิตณิชแปลกใจที่ปวีร์พาเธอไปพักที่กระท่อมน่ารักในป่า ท่ามกลางบรรยากาศสวยงาม ทั้งคู่อยู่ด้วยกันอย่างเพื่อน เริ่มเข้าใจและเห็นความดี ความน่ารักของอีกฝ่ายจนณิชยอมเป็นเมียของปวีร์ ความสุขหมดไปเมื่อเพียงเพ็ญตามมา ปวีร์ต้องพาเพียงเพ็ญไปพักโรงแรมในเมือง

เมื่อกลับมาที่พักณิชก็งอนและเริ่มทะเลาะกันอีก คืนหนึ่งปวีร์เมากลับมาจากการไปดินเนอร์กับเพียงเพ็ญ เขาโดนเพียงเพ็ญยุหลายเรื่องรวมทั้งเรื่องข่าวของรุ่งทิพย์ ปวีร์เชื่อเพียงเพ็ญทุกอย่าง ณิชเสียใจและเจ็บปวดมาก เธอบอกปวีร์ว่าจะกลับเมืองไทย ปวีร์จึงต้องกลับมาด้วย เหตุการณ์รุนแรงมากขึ้นเมื่อภรณีท้อง แต่ไพรุตให้ไปทำแท้ง ระหว่างนั้นสารนาถให้ณิชไปช่วยวศินและปวีร์ทำงาน ณิชทำงานอย่างตั้งใจจนพบว่าวศินทุจริตเรื่องเงิน เธอตามสืบจนรู้ว่าเขาเล่นการพนัน จึงต้องยักยอกเงินบริษัทฯ ณิชเตือนปวีร์เรื่องวศิน แต่ปวีร์ไม่เชื่อกลับหาว่าเธอคิดจะฮุบทรัพย์สินเงินทอง ณิชได้แต่อดทน เธอไปพบภรณีจึงรู้ว่าภรณีท้องและไพรุตบีบบังคับให้ทำแท้ง แถมยังไล่ออกจากบ้าน

ณิชตามไปอาละวาดไพรุตขณะที่ตัวเองก็เริ่มผิดปกติว่าจะท้อง ณิชแพ้ท้องมากขึ้นจนรุ่งทิพย์สงสัย ณิชแอบไปตรวจและรู้ว่าท้องจริงๆ แต่เธอไม่บอกปวีร์ ส่วนเพียงเพ็ญเมื่อใช้ทุกวิถีทางเพื่อให้ณิชเลิกกับปวีร์ ถึงขนาดเอาเงินล่อณิชก็ไม่ยอม เพียงเพ็ญขาดสติพาวรกานต์ไปอาละวาดกับภรณี ชุลมุนกันจนภรณีพลาดตกบันไดมา เธอแท้งลูก ณิชโกรธจัดมากเธอจะเอาเรื่องสองแม่ลูกให้ถึงที่สุด แต่ภรณีห้ามไว้ วรกานต์และเพียงเพ็ญเองก็ตกใจและสำนึกผิด ทว่าทุกอย่างสายเกินไป ส่วนวศินถูกณิชจับได้ว่าแอบขนของหนีภาษี ณิชขอให้วศินไปสารภาพกับสารนาถเอง ก่อนที่เบญจรัตน์จะทำข่าวและนำตำรวจมาจับ วศินทำตามณิช ปวีร์จึงได้รู้ว่าณิชเป็นคนดี ภรณีนั้นเมื่อออกจากโรงพยาบาลแล้วเธอก็บวชชีและอยู่กับแม่ชีสุดา ไม่ใยดีทางโลกอีกต่อไป เธอบอกปวีร์ว่าณิชท้อง ขณะที่ณิชเจ็บปวดกับเรื่องที่ผ่านมาของ ปวีร์และเพียงเพ็ญ เธอจึงขอหย่ากับปวีร์

ส่วนปวีร์เมื่อรู้ว่าณิชจะมีลูกเขาดีใจมากและเริ่มได้คิดทบทวนเรื่องที่ผ่านมาทั้งหมด และก็รู้ว่าเขาและเพียงเพ็ญทำร้ายจิตใจณิชมามากเหลือเกิน ระหว่างณิชกับเพียงเพ็ญ ณิชคือคนที่หวังดีและจริงใจกับครอบครัวเขามากที่สุด ปวีร์ไม่ยอมหย่าเมื่อณิชทำฤทธิ์มากเข้าเขากลับเอ็นดู และยอมรับว่าเขารักเธอ ณิชเงียบไปเพราะตัวเองรู้อยู่แก่ใจนานแล้ว ว่าเธอรักเขามากเช่นกัน ทุกอย่างจึงลงเอยด้วยดี



เรื่องย่อละคร คมแฝก | ละคอนดัง ป๋อ ซี เชียร์ นุ่น

บทประพันธ์ : สนีย์ บุษปะเกศ
บทโทรทัศน์ : คฑาหัสต์ บุษปะเกศ
กำกับการแสดง : นนทนันท์ สังข์สวัสดิ์

เรื่องย่อคมแฝก

การปรากฏตัวของชายหนุ่มนิรนามร่างกายกำยำ นัยน์ตาซื่อ หน้าดุ ณ เมืองพล ตำบลใหญ่ ใกล้เคียงเมืองขอนแก่น สถานที่ไม่เจริญแต่ไม่เงียบเหงา สร้างความแตกตื่นให้กับ จงอาง หนุ่มน้อยในพื้นที่อย่างมาก เมื่อเขาบังเอิญพบชายหนุ่มผู้นั้นนั่งร่ำไห้อยู่หน้าหลุมศพ พ่อก้อน ผู้เป็นบิดา หลังจากที่เขาคนนั้นหายสาบสูญไปนานนับ 10 ปี!

จงอางรีบกลับไปเล่าสิ่งที่ตนเห็นให้ พ่อปาน แม่แจ้ บุพการีผู้เป็นเจ้าของ ?ร้านค้าเมืองพลการค้า? ที่เปิดขายเหล้า กาแฟ ข้าวแกง รวมทั้งของเบ็ดเตล็ดต่างๆ ฟัง แต่ยังไม่ทันที่จงอางจะพูดพร่ำทำเพลง ชายหนุ่มผู้นั้นก็ปรากฎตัวขึ้นท่ามกลางความพิศวงของทุกคน

เขาเรียกสั่งน้ำหวาน และถามหาแม่ของตน นักเลง โขน และ สิงห์โต ลูกค้าในร้านได้ยินแล้วขำกลิ้ง เพราะคิดว่าเขาเป็นลูกแหง่พลัดถิ่นมาตามหาแม่ ทั้งสองวางกล้ามอวดเบ่งอิทธิพลเต็มที่ แต่ชายหนุ่มผู้นั้นก็มิได้ตอบโต้ เขาเพียงแค่ปลีกตัวออกจากร้านไปอย่างเศร้าซึม

แท้จริงแล้ว ชายนิรนามผู้นี้คือ กัลป์ เกรียงไกร อดีตนายสิบตำรวจเอกที่ถูกจำคุกข้อหาฆ่าคนตาย บัดนี้เขาได้รับอิสรภาพจึงเดินทางกลับสู่บ้านเกิด แต่สิ่งที่เขาต้องพบเจอสร้างความผิดหวังเสียใจแก่เขาอย่างมาก เมื่อพบว่าครอบครัวของเขาแตกกระเซ็นสาย พ่อของเขาถูกยิงตาย แม่ เมีย และน้องสาวหายตัวไปอย่างลึกลับ ส่วนบ้านของเขาก็ถูกยึดและแปรเปลี่ยนเป็น ?โรงปอราชสีห์? ซึ่งเขาถูกคนงานจากโรงปอนั้นขับไล่อย่างไม่ใยดี

กัลป์หมดอาลัยตายอยากในชีวิต แต่เมื่อเขาได้พูดคุยกับ ตะเภา ลูกสาวคนสวยของพ่อปาน แม่แจ้ ที่ดูเหมือนจะเป็นมิตรแท้คนเดียวของเขาในยามนี้ ความเศร้าของเขากลับกลายเป็นความแค้นขึ้นมาทันทีเมื่อได้รู้ว่าเรื่องเลวร้ายทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับครอบครัวเขา เกิดจากน้ำมือของ แสน ราชสีห์ อดีตเพื่อนรักของเขานั่นเอง

ดังนั้น เมื่อกัลป์ถูก โขน และสิงห์โต ลูกน้องของ แสน ตามราวีอีกครั้ง เพราะต้องการรู้ให้ได้ว่าเขาเป็นใคร กัลป์จึงใช้ ?คมแฝก? อาวุธคู่กายเล่นงานทั้งคู่เสียน่วม ก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เมื่อ แสน ราชสีห์ เจ้าพ่อแห่งเมืองพลรู้ข่าวบุคคลลึกลับผู้วาดลวดลายคมแฝกเหนือชั้นนี้ เขารู้ทันทีว่าเพื่อนรักที่เขารอคอยมานานแสนนาน บัดนี้ได้กลับมาแล้ว ถึงเวลาที่เขาจะคิดบัญชีความแค้นกับกัลป์เสียที แสนสั่งลูกน้องให้กระจายกำลังออกค้นหาตัวกัลป์ทั่วเมืองพล ไม่ว่าจะเป็นร้านพ่อปาน วัดเก่าเมืองพล รวมถึงบ้าน ตะโพน สัปเหร่อแก่ประจำวัดที่ไม่มีใครอยากย่างกรายเข้าไป แต่คนของแสนก็ต้องคว้าน้ำเหลว ไม่มีผู้ใดหาตัวกัลป์พบ

เมื่อจับตัวกัลป์มาแก้แค้นให้สมอยากไม่ได้ แสนจึงหันไปทรมาน ดอกไม้ อดีตเมียรักของกัลป์ที่เขาฉุดคร่ามาบำเรอความใคร่แทน ดอกไม้จวนเจียนจะถูกแสนย่ำยีอย่างทารุณ แต่แล้วกัลป์ก็ปรากฏตัวขึ้นช่วยเธอไว้ได้ทัน โดยที่แสนไม่กล้าใช้อาวุธปืนต่อสู้คมแฝกของกัลป์แม้แต่น้อย

แทนที่เขาจะใช้คมแฝกฆ่าแสนให้ตาย กัลป์เลือกที่จะใช้กฎหมายลากตัวแสนเข้าตะรางให้จบสิ้นความแค้น เขารู้ดีว่าแสนเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการตายของนายทองหลางที่ทำให้เขาต้องติดคุก ดังนั้นกัลป์จึงบังคับให้แสนเขียนจดหมายสารภาพความจริงทั้งหมดว่าเป็นผู้จัดฉากเรื่องราวทั้งหมด แสนได้ทีจึงยั่วว่าจะสารภาพแถมให้ด้วยว่าเป็นผู้ฉุดคร่าดอกไม้ไปข่มขืน คำพูดนี้ทำให้กัลป์โกรธจัด แสนอาศัยจังหวะนี้เข้าเล่นงานกัลป์จนเสียหลัก เขาถูกแสนทำร้ายได้รับบาดเจ็บแต่ก็สามารถกระโดดหน้าต่างหนีตายไปได้

แสนสั่งการให้ลูกน้องทั้งหมดพลิกแผ่นดินหาตัวกัลป์ เหล่าคนงานออกค้นหาตัวกัลป์เกือบทุกตารางนิ้วของที่ดินแสง เว้นไว้เพียงแต่เรือนหลังงามชั้นครึ่งที่เป็นที่อยู่ของ อัญชัญ น้องสาวต่างมารดาของเจ้าพ่อเมืองพลที่มีดีกรีเป็นถึงนักเรียนนอกจากออสเตรเลีย เธอประกอบอาชีพสุจริต ไม่เกี่ยวข้องกับการค้าของเถื่อนของแสนแต่ประการใด

อัญชัญสะดุ้งตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงดังโหวกเหวก แต่แล้วเธอก็ต้องตกใจมากขึ้นที่จู่ๆ ชายร่างกายบอบช้ำนายหนึ่งปรากฏตัวขึ้นในห้องนอนของเธอ เมื่อทั้งสองเห็นหน้ากันถนัด อัญชัญจำได้ทันทีว่าเขาคือกัลป์ อดีตคนรักเก่าที่หนีเธอไปแต่งงานกับดอกไม้ ความเสียใจ เจ็บแค้น และอับอายคุกรุ่นอยู่ในอกของหญิงสาว แต่ถึงกระนั้นเธอก็ยังให้ความช่วยเหลือกัลป์อย่างเพื่อนคนหนึ่ง

อัญชัญออกอุบายร้องให้แสนมาจับตัวกัลป์ไป เพราะเธอรู้ดีว่าไม่มีทางที่กัลป์จะหนีรอดออกไปได้ง่ายๆ เขาถูกแสนเฆี่ยนด้วยหวายจนเนื้อแตกยับ นางมาลัย กระรอก ผู้เป็นแม่และน้องสาวของเขาที่แสนนำมาเลี้ยงดูไว้ ต่างพากันวิงวอนขอให้แสนไว้ชีวิตกัลป์ แต่ก็ไม่เป็นผล

อัญชัญทนเห็นแสนเล่นงานกัลป์ คนที่ไม่มีทางสู้ไม่ไหว เธอขอร้องให้พี่ชายนำกัลป์ไปจัดการให้ไกลตา แสนจึงนำตัวเขาไปที่โรงปอโดยหมายจะเผาให้เขาตายทั้งเป็น แต่แล้วแผนการอันแสนจะเหี้ยมโหดของแสนก็ถูกขัดจังหวะขึ้นโดย ร้อยตำรวจโทเพชร ไพบูลย์ หรือ รองเพชร นายตำรวจใหม่ที่เพิ่งย้ายเข้ามาประจำการมาขอพบ แสนจำต้องออกไปต้อนรับ อัญชัญอาศัยช่วงเวลานี้แอบปล่อยตัวกัลป์ให้หนีรอดไปได้ แสนโกรธจัดเมื่อรู้ข่าวนี้ เขาระดมกำลังคนออกตามหาตัวกัลป์อีกครั้ง แต่ก็คว้าน้ำเหลว ซึ่งแท้จริงแล้วกัลป์ไปหลบซ่อนตัวอยู่ในโลงผีที่บ้านตะโพน สัปเหร่อนั่นเอง

วันเวลาผ่านไป อาการบาดเจ็บของกัลป์ดีขึ้นมากจนเกือบจะหายดี ตะเภามาเยี่ยมเยียนเขาที่บ้านตะโพน พลางเล่าให้ฟังถึงชายหนุ่มต่างถิ่นที่มีเรื่องกับ ไอ้เข้ม ไอ้ขวาน ลูกน้องของแสนว่าเป็นคนจริงใจกล้า กัลป์เกิดความรู้สึกสนใจตัวบุรุษนิรนามผู้นั้นทันที แต่ยังไม่ทันที่เขาจะซักไซร้รายละเอียดชายผู้นั้น กัลป์ก็จำต้องให้ตะเภารีบกลับไปเพราะอัญชัญมาเลี้ยงเพลที่วัด เขาเกรงว่าลูกน้องของแสนจะเห็นตะเภา และรู้ว่าเขาหลบซ่อนตัวอยู่ที่นี่

แท้จริงแล้วชายหนุ่มนิรนามที่ตะเภาพูดถึง ชื่อว่า เพลิง กัมปนาท เขาถูกฝากฝังจากอาจารย์ทวีศักดิ์ที่อัญชัญนับถือให้มาทำงานในไร่แสงดาว อัญชัญให้เขาทำงานในตำแหน่งหัวหน้าคนงานแทนเข้ม เธอให้เขาไปนอนในที่พักเดียวกับคนงานของแสน ซึ่งแน่นอนว่านิสัยไม่ได้เลวผิดแผกจากเจ้านายเท่าไรนัก เพลิงถูกรับน้องใหม่จากพวกคนงานเหล่านั้นที่รุมเข้ามาอย่างหมาหมู่ เพลิงสู้สุดใจไม่มีถอยจนแสนลงมาจัดการด้วยตนเอง อัญชัญเป็นคนห้ามทัพระหว่างคนทั้งสอง

แสนเห็นว่าเพลิงเป็นคนกล้าจึงเชิญไปพบเป็นการส่วนตัวที่บ้าน ซึ่งเพลิงก็สัญญาว่าจะไปพบเขาโดยไม่ฟังคำทัดทานของอัญชัญแม้แต่น้อย เพลิงออกจากไร่แสงดาวไปสงบจิตสงบใจที่ร้านเมืองพลการค้า อัญชัญนึกห่วงเพลิงเป็นอย่างมาก เพราะรู้ดีว่าพี่ชายตนจะลวงเพลิงไปฆ่า ซึ่งระหว่างนี้เองกัลป์ผู้ซึ่งรักษาตัวจนแข็งแรงเป็นปกติแล้วได้ลอบเข้ามาหาอัญชัญ เธอตกใจมากคิดว่าเขาจะมาย่ำยีทำลายเธอแทนพี่ชาย กัลป์ปฏิเสธและสารภาพว่ายังรักอัญชัญอยู่ ที่เคยทิ้งเธอไปเพราะหน้าที่ขัดกับหัวใจ เขาเป็นตำรวจไม่สามารถเป็นพวกเดียวกับคนที่ค้าของเถื่อนขายชาติได้ อัญชัญฟังแล้วใจละลายเพราะตนเองก็ยังรักเขาอยู่มาก กัลป์ขอให้เธอเป็นฝ่ายเดียวกับเขาที่จะผดุงความดี เรียกร้องเอาสิทธิความชอบธรรมกลับคืนสู่เมืองพล หญิงสาวเริ่มจะคล้อยตาม

กัลป์ออกจากไร่อัญชัญตามเพลิงมาที่ร้านเมืองพลการค้าอย่างเปิดเผย เขาไม่ขอเป็นผู้ถูกตามล่าอีกต่อไป ซึ่งเขาได้พบกับเพลิง กัมปนาทที่เมื่อได้เห็นหน้าแล้วรู้สึกถูกคอขึ้นมาอย่างประหลาด แต่ยังไม่ทันที่คนทั้งคู่จะคุยกันก็มีรถขายยาโฆษณาฉายหนังกลางแปลงขับเข้ามาจอดหน้าร้านเสียก่อน

คนขับรถผอมเกร็ง แต่ทะมัดทะแมงเข้ามาแนะนำตัวกับพ่อปานเจ้าของร้านว่าชื่อ องอาจ ชาตินักสู้ เป็นคนเร่ขายยาที่อยากมาฉายหนังที่เมืองพล เขาขอยืมเงินพ่อปาน และขอเช่าห้องนอนค้างระหว่างที่อยู่ในเมืองพลนี้ ซึ่งยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะตกลงอะไรกัน เสือ ใจสิงห์ ลูกน้องของแสนที่รู้ข่าวว่ากัลป์อยู่ที่นี้ก็พาพวกมาเล่นงาน กัลป์สู้ไม่ถอย ซึ่งเพลิงและองอาจกระโดดเข้าร่วมการต่อสู้ครั้งนี้ด้วย เพราะทนเห็นกัลป์ถูกรุมเล่นงานไม่ได้ เหตุการณ์ต่อสู้เป็นไปอย่างชุลมุน รองเพชรเข้ามาควบคุมสถานการณ์ เขาจับกุมตัวเสือ และพรรคพวกไปขังที่โรงพักโทษฐานที่หาเรื่องระรานกัลป์ เพลิง และองอาจก่อน

ตะเภาที่ลอบดูเหตุการณ์ทั้งหมดชื่นชมในความเก่งกล้าของเพลิง สาวน้อยวิงวอนให้เพลิงเป็นผัวตนเพื่อที่จะไม่ต้องเป็นเมียเก็บของแสน เพลิงอึ้งไปพักใหญ่แต่ยังไม่ทันที่จะตอบตกลง กัลป์ก็เข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน เขาเข้ามาขอหลบหน้ากระรอกน้องสาวที่กำลังตรงมาที่ร้านนี้

กระรอกมาซื้อยาให้แม่ องอาจประทับใจในตัวกระรอกตั้งแต่แรกพบ เขาจัดยาของตนให้กระรอกไปรักษาแม่ กระรอกส่งข่าวว่าห้องตะเภาที่แสนจะรับไปเป็นเมียตกแต่งใกล้เสร็จแล้ว นอกจากนี้กระรอกยังแอบเล่าถึงเหตุการณ์เลวของแสนที่เธอรู้มาว่าแสนคิดจะขนอาวุธเถื่อนมาทางศรีเชียงใหม่ ทางหนองสองห้องเข้ามาทางป่าอุดร เพื่อจะครอบครองอีสานให้ได้ภายในปีนี้ ทุกคนฟังแล้วต่างร้อนใจ เพราะแสนทำเหมือนผู้อยู่เหนือกฎหมายขึ้นไปทุกวัน ชาวบ้านต่างภาวนาให้ผู้กองคนใหม่ และนายอำเภอที่ทางการจะส่งมาสามารถปราบปรามอิทธิพลมืดของแสนได้

คืนนั้น องอาจไปฉายหนังกลางแปลงที่หน้าบ้านแสน แสนอนุญาตให้คนงานออกไปดูหนังได้โดยเหลือลูกน้องเพียง 2 คน ไว้คอยจัดการกับเพลิง กัลป์เตือนเพลิงให้ระวังตัวพร้อมให้คมแฝกเป็นอาวุธ เพลิงตัดสินใจเข้าไปพบแสนเมื่อหนังเริ่มฉาย องอาจอาศัยจังหวะนี้ลอบตามเพลิงเข้าไปด้วย ทั้งสองหารู้ไม่ว่าเหตุการณ์ทั้งหมดนี้อยู่ในสายตาของรองเพชรตลอดเวลา

องอาจแอบเข้าไปสำรวจโรงเก็บปอของแสน แล้วก็ต้องตกตะลึงเมื่อพบว่าโรงปอนี้แท้จริงแล้วเป็นคลังแสงขนาดย่อม มีลังกระสุนปืน ปืนสั้น ปืนยาวมากพอที่จะปล้นได้ทั้งเมือง และเมื่อเขาลอบเข้าสู่เรือนหลังใหญ่ ก็ได้พบกับกระรอก ทั้งสองจำกันได้ เขาขอให้กระรอกไว้ใจเขา เพราะเป็นเพื่อนของกัลป์และเขาก็ตกหลุมรักเธอเสียแล้ว แต่ยังไม่ทันที่ทั้งสองจะพูดคุยอะไรกัน เสียงสัญญาณเตือนเรื่องการฉายหนังขององอาจดังขึ้นเสียก่อนทำให้เขาต้องรีบกลับไปที่รถขายยาอย่างเร่งด่วน

ส่วนเพลิงนั้น เขาเข้าไปพบแสนตามที่ตกลงไว้ทั้งๆ ที่รู้ว่าแสนคิดไม่ซื่อ เขาชิงเล่นงานลูกน้องของแสนเสียก่อนจะถูกเล่นงาน และสามารถหลบหนีออกไปได้อย่างหวุดหวิด

ทั้งกัลป์ เพลิง และองอาจกลับมารวมตัวกันที่ร้านเมืองพลการค้า โดยที่เพลิงได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย องอาจเล่าถึงเรื่องพบอาวุธเถื่อนในโรงปอของแสน ซึ่งขณะนี้รองเพชรได้พาลูกน้องไปค้นโรงปอของแสนแล้ว

แสนเต็มใจเปิดโรงปอให้รองเพชรค้นแต่โดยดี เพราะเขาไหวตัวทันสั่งลูกน้องขนย้ายอาวุธไปที่โรงปอราชสีห์บ้านเก่าของกัลป์ ดังนั้นรองเพชรจึงคว้าน้ำเหลวและเมื่อเขากลับไปโรงพักก็ต้องตกตะลึง เมื่อได้รู้ว่าพวกลูกน้องแสนที่เป็นคนร้ายแหกคุกไปได้ และตำรวจทั้งหมดถูกฆ่าตาย

รองเพชรโกรธมาก เขาตัดสินใจได้ว่าเมื่อกฎหมายใช้กับแสนไม่ได้ผล ต่อจากนี้ไปเขาจะใช้วิธีโจรเล่นงานแสนแทน ส่วนกัลป์ เมื่อได้รู้ข่าวนี้ก็โกรธเป็นไฟ เขาต้องการให้บทเรียนกับแสนว่าไม่มีทางชนะตำรวจไปได้ เขารู้ทันทีว่าแสนขนย้ายอาวุธไปเก็บไว้ที่ใด ดังนั้นกัลป์จึงบุกเดี่ยวไปยังโรงปอราชสีห์ และใช้ระเบิดมือเป็นชนวนระเบิดคลังแสงนั้นเสียเป็นจุล

รองเพชรมาตรวจที่เกิดเหตุและจะเข้าจับกุมตัวแสน แต่เขาก็ต้องผิดหวังเมื่อแสนได้ให้สินบน ไอ้ชิด ให้เป็นผู้รับผิดเรื่องวางเพลิงและเรื่องอาวุธของกลางทั้งหมด ตำรวจจำต้องจับตัวชิดไปด้วยความจนใจ ความพินาศที่เกิดขึ้นกับแสนในครั้งนี้ทำให้เขาโกรธมาก แสนเชื่อว่าเป็นฝีมือของกัลป์แน่นอน จึงสั่งคนไปปลิดชีวิตกัลป์

อัญชัญรับรู้แผนการแก้แค้นครั้งนี้ของพี่ชาย เธอจึงรีบไปเตือนกัลป์ และถ่วงเวลาเขาให้อยู่กับเธอ เมื่อคนรักเก่าใกล้ชิดกัน บรรยากาศเป็นใจและหัวใจรักเรียกร้อง ทั้งสองจึงตกเป็นของกันและกันอย่างเต็มใจ กัลป์สัญญากับหญิงสาวว่าจะปกป้องดูแลเธอไม่ให้แสนทำอะไรอัญชัญได้ และเขาก็สามารถจัดการกับคนที่แสนส่งมาได้อย่างราบคาบ

เมื่อแสนทำอะไรกัลป์ไม่ได้ จึงคิดที่จะย่ำยีทำลายกระรอกน้องสาวสุดที่รักของกัลป์ให้หายแค้น ซึ่งอัญชัญก็สามารถช่วยกระรอกให้รอดพ้นเงื้อมมือของแสนไปได้ เธอบอกความจริงแก่มาลัยและกระรอกว่าเธอเป็นพวกกัลป์และขอร้องให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ

เมื่ออัญชัญสมัครใจเป็นพวกของกัลป์แล้ว เธอจึงแอบสืบแผนการชั่วร้ายของแสนแล้วก็ต้องตกใจเมื่อรับรู้ว่าแสนเรียกประชุมลูกน้องให้ปล้น วางเพลิง และไปรับอาวุธจากศรีเชียงใหม่มาก่อจราจลหวังครอบครองดินแดนอีสาน เธอรีบสั่งให้กระรอกไปแจ้งข่าวกับกัลป์และพรรคพวกทันที

รุ่งเช้า แสนเริ่มปฏิบัติการโจร ข่มขู่ รีดเก็บภาษีกับชาวบ้านร้านรวงต่างๆ และเผาปั้มน้ำมัน ซึ่งตำรวจที่รู้ล่วงหน้าอยู่แล้วได้ซ้อนแผน จัดการเก็บลูกน้องของแสนอย่างไม่ใยดี เพราะถือว่าถ้าเจ้าพ่อเมืองพลทำอะไรเหมือนกับว่าเมืองพลไม่มีกฎหมาย ไม่มีตำรวจ ฝ่ายตำรวจก็จะทำเป็นว่าไม่ใช่กฎหมาย ไม่ใช่ตำรวจเช่นกัน

ส่วนฝ่ายกัลป์ เพลิง องอาจ อาสาจัดการกับการขนส่งอาวุธเถื่อน ทั้งสามพากำลังไปซุ่มดักโจมตีอยู่ที่ดงชมพูด้วยอาวุธครบมือ กัลป์แคลงใจองอาจเล็กน้อยที่เขามีอาวุธต่อสู้มากมาย เขาคิดว่าองอาจอาจเป็นพวกค้าอาวุธกับแสนแล้วขัดผลประโยชน์กันเองที่จะทรยศเขาภายหลัง แต่องอาจยืนยันว่าทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ และจะพิสูจน์ให้กัลป์เห็นเอง

เมื่อกลุ่มขนย้ายอาวุธเคลื่อนเข้ามา ทั้งสองฝ่ายเกิดการปะทะกัน การซุ่มโจมตีอย่างรวดเร็วของฝ่ายกัลป์ ทำให้ฝ่ายแสนแพ้ไปอย่างราบคาบ แสนรับฟังความจริงนี้อย่างปวดใจจากปากสิงห์โตลูกน้องคนเดียวที่รอดมาได้ เขารู้ทันทีว่าต้องมีคนทรยศหักหลังเป็นไส้ศึกอย่างแน่นอน

ลูกน้องแสนจับตัว ผาด หนึ่งในพลพรรคของกัลป์มาได้ ผาดสารภาพสิ้นว่าเพลิง และองอาจมีส่วนร่วมในการกระทำครั้งนี้ด้วย แสนจึงสั่งลูกน้องให้จับตัวกระรอกน้องรักกัลป์ และตะเภาคนรักเพลิงมาทันที แสนคาดคั้นความจริงจากเด็กสาวทั้งสอง แต่ไม่มีใครยอมบอกอะไรกับแสนทั้งสิ้น แสนขู่ว่าจะให้คนงานรุมโทรม ดอกไม้เข้ามาปกป้องก็ถูกทำร้าย นางมาลัยเข้าช่วยลูกจนตัวตาย อัญชัญทนเห็นการกระทำที่ป่าเถื่อนนี้ไม่ไหว จึงยอมรับกับแสนว่าตัวเป็นไส้ศึก และที่ทำไปเพราะทนเห็นพี่ขายชาติ และทำลายแผ่นดินไทยไม่ได้

แสนเสียใจมากที่ถูกคนที่เขารักที่สุดหักหลัง และต้องการแก้แค้นกัลป์ เพลิง และองอาจที่ทำแผนการเขาป่นปี้ จึงจับอัญชัญ ตะเภา และกระรอกไปเป็นตัวประกันต่อรอง แสนพาทั้งหมดหนีการจับกุมไปอยู่ที่ห้วยน้ำตื้นเขิน ไอ้โดดที่หนีรอดมาได้รีบไปรายงานกัลป์เรื่องหญิงสาวทั้งสามที่ถูกจับเป็นตัวประกันและเรื่องที่นางมาลัยถูกแสนฆ่าตายอย่างทารุณ กัลป์โกรธจัด เขาบุกเดี่ยวเข้าไปชิงศพแม่ ทำลายบ้านแสนเสียวอดวายและช่วยดอกไม้ออกมาได้

กัลป์ต้องการจะฆ่าแสนให้หายแค้น ทุกคนพยายามขอร้องให้เขาใจเย็นเพราะเกรงว่าแสนจะทำร้ายตะเภา กระรอก และอัญชัญ แต่กัลป์ยังดื้อดึง เขาจึงถูกต่อยสลบและพาไปขังตะรางเพื่อสงบจิตสงบใจ ทุกคนช่วยกันวางแผนชิงตัวคนรักกลับคืน แล้วแสนก็ปรากฏตัวขึ้นในคืนนั้นเพื่อจัดการกับกัลป์ เพลิง และองอาจให้หายแค้น ตำรวจระดมกำลังมาล้อมแสนไว้ แต่แสนขู่ถึงตัวประกันทั้งสามว่า ถ้าเขาเป็นอะไรไป หรือไม่กลับไปภายในครึ่งชั่วโมง ลูกน้องของเขาจะฆ่าตัวประกันทิ้งเสีย จึงไม่มีใครกล้าทำอะไร

แสนเล็งปืนไปที่กัลป์หมายสังหาร แต่ดอกไม้ถลามาบังกระสุนไว้จึงตายแทนกัลป์ ทุกคนมองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างตกตะลึง พ่อปานทนดูไม่ไหว คว้าคมแฝกส่งให้กัลป์เข้าเล่นงานแสนจนปางตาย แต่เขาจำต้องปล่อยแสนกลับไปเพื่อช่วยชีวิตตัวประกันไว้

แสนยื่นข้อเสนอให้ทั้งสามหนุ่มไปหาเขาที่ห้วยน้ำตื้นเขินตอนรุ่งเช้าเพื่อแลกกับชีวิตหญิงคนรักโดยห้ามพกอาวุธหรือคิดตุกติกทั้งสิ้น ซึ่งกัลป์ เพลิง และองอาจตกลงใจที่จะทำตามข้อเสนอของแสนทุกอย่าง พิธีรดน้ำศพของดอกไม้ถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ ที่ที่ว่าการอำเภอ ชาวเมืองพลทุกคนโศกเศร้ากับการจากไปของเธอ รองเพชรประกาศว่าวันนี้นายอำเภอ และผู้กองเมืองพลจะให้เกียรติมารดน้ำศพแก่ดอกไม้ด้วย ชาวเมืองรอคอยกันอย่างใจจดจ่อ แล้วทุกคนก็ได้รู้ความจริงว่าองอาจ ชาตินักสู้ คือ นายอำเภอของเมืองพล ส่วนเพลิง กัมปนาทคือผู้กองนั่นเอง

วันรุ่งขึ้น ชายหนุ่มทั้งสามเดินทางไปหาแสนที่ห้วยน้ำตื้นเขินตรงเวลานัดหมาย แสนบอกแผนการสุดท้ายของตนที่จะทำการยึดบ้านสีดา พุ่งเข้าโคราช ขอนแก่น โดยจะมีกลุ่มชนต่างชาติให้การสนับสนุน แสนวาดหวังว่าตนจะกลับไปยิ่งใหญ่อีกครั้ง แต่ตอนนี้เขาขาดแคลนเสบียงอาหาร ลูกน้องกำลังหิวโหย แสนบังคับให้เพลิงเขียนจดหมายลงไปสั่งการรองเพชรให้นำเสบียงพร้อมโลงศพ 3 โลงขึ้นมา โดยใช้หญิงสาวตัวประกันเป็นข้อต่อรองตามเคย

เพลิงจำใจเขียนจดหมายสั่งการลงไป ระหว่างรอเสบียง แสนให้ชายหนุ่มทั้งสามฆ่าเวลาโดยการขุดหลุมเพื่อฝังศพตัวเอง ซึ่งทั้งสามคนก็ตั้งใจขุดกันอย่างขยันขันแข็งท่ามกลางความโศกเศร้าของหญิงสาวทั้งสาม

เวลาผ่านไป เกวียนลากสิ่งของที่แสนต้องการก็มาถึง โดยมีตะโพนสัปเหร่อนั่งคุมโลงศพมาด้วย และด้วยความเร็วที่นายแสนก็ตั้งตัวไม่ติด ปลัดปราบปรามดีดตัวลอยออกมาจากโลงศพอย่างรวดเร็ว เขาส่งระเบิดมือให้องอาจเป็นอาวุธ ชายหนุ่มทั้งสามยึดหลุมที่ขุดไว้เป็นเกราะป้องกันตัว ฝ่ายแสนและตำรวจต่อสู้กันพักใหญ่ และในที่สุดแสนก็พ่ายแพ้หนีไป โดยมีกัลป์ที่ถือคมแฝกคู่ใจตามติดประชิดไป

อัญชัญ ตะเภา กระรอก ได้รับการช่วยเหลือเป็นอิสระ เพลิงสั่งการให้รองเพชรเคลียร์พื้นที่ รวมทั้งติดต่อหน่วยปราบปรามพิเศษเพื่อสกัดกั้นแผนการชั่วร้ายที่แสนบอก ก่อนจะตามไปช่วยเหลือกัลป์ กัลป์ตามติดไปเล่นงานแสนที่หนีกระเซอะกระเซิงไปที่คลังแสงเถื่อนท้ายไร่อัญชัญ ทั้งสองต่อสู้กันอย่างดุเดือด ข้าวของแตกหัก ถุงดินปืนหกเกลื่อนกลาด แต่ในที่สุดกัลป์ก็พลาดท่าเสียทีถูกแสนเล่นงานปางตาย แสนจุดบุหรี่สูบ มองผลงานของตัวเองที่สามารถจัดการกัลป์อย่างสบายใจ

แต่แล้วองอาจก็พากำลังที่เหลือตามมาช่วยกัลป์ เขาขู่จะระเบิดคลังแสงนี้ถ้าแสนไม่ยอมปล่อยกัลป์ แสนหงุดหงิด จับกัลป์ยัดใส่ถังน้ำมันกลิ้งออกไป พลางจุดไดนาไมต์จะเขวี้ยงตามออกไปหมายจัดการคนกลุ่มนี้ให้สิ้นซาก แต่ด้วยความลืมตัว แสนเผลอขว้างบุหรี่ม้วนนั้นลงดิน สะเก็ดบุหรี่ และเปลวไฟแตกกระจาย ดินปืนทั้งหมดลุกพรึ่บในพริบตาเดียว

แสนผงะด้วยความตกใจสุดขีด และก่อนที่เขาจะขว้างไดนาไมต์ออกไป ระเบิดแรงสูงที่อยู่ในลังใกล้ตัวเขาก็กัมปนาทขึ้น วินาทีนั้น วิญญาณของแสนปลิดปลิวไปสู่ยมโลกทันที

เมื่ออิทธิพลมืดหมดไป เมืองพลกลับเข้าสู่ความผาสุขดังเดิมอีกครั้ง ผู้คนอยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข เพลิง กัมปนาท กลายเป็นผู้กองยอดรักของตะเภา กระรอกมีความสุขกับนายอำเภอหนุ่มองอาจ ชาตินักสู้ ส่วนกัลป์ เกรียงไกร หลังจากรักษาตัวจนหายดีแล้ว กรมตำรวจพิจารณาปูนบำเหน็จความดีความชอบให้เขากลับเข้ารับราชการใหม่อีกครั้ง เขาได้เลื่อนยศเป็นถึงผู้บังคับหมวดเมืองพล และแน่นอนว่าความรักของเขากับอัญชัญเจริญงอกงามอยู่ในใจของทั้งสอง เขาและเธอสัญญาว่าจะไม่มีวันพรากจากกันอีกจนกว่าโลกจะยุบ ดาวจะดับ...คู่รักทั้งสามของเมืองพลครองรักกันอย่างมีความสุขสืบไป


"คมแฝก" ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.25 น. ทางช่อง 7

เรื่องย่อละคร สู่ฝันนิรันดร | ละครฮิต หมิว ช่อง 3

บทประพันธ์: รัตนสยาม
บทโทรทัศน์: นลินี สีตะสุวรรณ
กำกับละคร: ชูศักดิ์ สุธีรธรรม
ดำเนินการผลิต : บริษัท ฮู แอนด์ ฮู จำกัด เ

รื่องย่อสู่ฝันนิรันดร

เจ้าสัวเจิมศักดิ์ ราชเสนา คหบดีผู้มั่งคั่งวัย 75 ปี เจ้าของธุรกิจชั้นนำของประเทศมีภารกิจสำคัญที่ถูกสั่งตกทอดกันมาด้วยเรื่องให้ตามหาสตรีนางหนึ่ง นามว่า เฟื่อง ตามบันทึกที่ได้เขียนไว้ตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษสมัยกรุงธนบุรี และมีหลักฐานทางวัตถุคือ เสื้อผ้า นาฬิกา และบัตรเคลือบพลาสติก ที่ถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี โดยเจ้าสัวมอบหมายให้ รมต.เจิมพัฒน์ ลูกชายคนโต เป็นผู้นำไปหาข้อมูล นำความไม่พอใจให้กับสมาชิกในครอบครัวแต่เหมือนโชคชะตาถูกกำหนด เมื่อเจ้าสัวและพีรพัฒน์หลานชายได้พบกับช่างภาพสาวที่มีรูปร่าง หน้าตาเหมือนในบันทึกและที่น่าสนใจกว่านั้น ช่างภาพสาวผู้นั้นถูกเรียกว่า เฟื่อง และการพบกันในครั้งนี้เป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ประหลาด พัชร์เฟื่องเริ่มฝันถึงชายโบราณคนหนึ่งพร้อมกับเสียงนุ่มๆ ที่เรียกว่า นางเฟื่อง

กวินเพื่อนสนิทของพัชร์เฟื่อง เป็นอาจารย์ประจำคณะโบราณคดี ได้ขอร้องให้พัชร์เฟื่องไปช่วยเหลือแนะนำเทคนิคการถ่ายภาพให้นักศึกษา เป็นเหตุให้พัชร์เฟื่องได้พบกับพีรพัฒน์อีกครั้ง พีรพัฒน์เป็นลูกศิษย์ของกวิน พีรพัฒน์ตกหลุมรักพัชร์เฟื่องเข้าอย่างจัง เจ้าสัวออกอุบายว่าจ้างบริษัทที่พัชร์เฟื่อง ทำงานอยู่ โดยระบุให้พัชร์เฟื่องเพียงคนเดียวเป็นคนนำเสนองาน เจ้าสัวไม่ได้สนใจงานที่เสนอเลยแม้แต่น้อย กับพาเธอไปชมเรือนไทยหลังตึกใหญ่ นำภาพเขียนบรรพบุรุษให้ดู เป็นภาพชายที่พัชร์เฟื่องเคยฝันถึง โดยไม่รู้เล่ห์กลที่เจ้าสัวเปิดฉากให้รู้จักกับหลวงพิพิธราชเสนาเข้าแล้ว เจ้าสัวได้มอบสร้อยพร้อมจี้หินสีดำให้พัชร์เฟื่อง พร้อมกำชับให้ท่องคาถากำกับอย่าได้ขาด พีรพัฒน์รู้ความลับที่เจ้าสัวพยายามพาพัชร์เฟื่องย้อนอดีต ด้วยความรักที่มีต่อพัชร์เฟื่อง เขาจึงหาหลักฐานต่างๆ ที่เจ้าสัวเก็บไว้ไปทำลายทิ้ง พีรพัฒน์เริ่มขัดแย้งกับเจ้าสัว และขอร้องให้เจ้าสัววางมือจากพัชร์เฟื่อง แต่เจ้าสัวกลับสั่งลูกน้องจับตัวพีรพัฒน์ไปกักบริเวณ

ขณะนั้นพัชร์เฟื่องทำงานอยู่ที่ใกล้ๆ กับวัดระฆัง และกำลังจะกลับบ้านกับกวิน พัชร์เฟื่องได้ยินเสียงสวดคาถา โอมพะพะโลกะระทะวารัง ตลอดเวลาครั้งแรกเข้าใจว่าเป็นเสียงสวดมาจากวัด แต่เมื่อนั่งในรถจะกลับบ้านก็ยังคงได้ยินเสียงสวดอยู่ เสียงดังชัดเจนจนเผลอสวดคาถาตามจนเป็นเสียงเดียวกัน ฉับพลันเกิดเสียงเปรี้ยงลงมาที่รถกวิน หลังเหตุการณ์สงบกวินก็ต้องตกใจเมื่อพัชร์เฟื่องหายไปอย่างไรร่องรอย พัชร์เฟื่องมาปรากฏกายภายในโบสถ์วัดบางหว้าใหญ่ ในสมัยกรุงธนบุรีปี 2312 พัชร์เฟื่องตกใจมากพยายามวิ่งหนีออกจากโบสถ์ แต่ถูกชายผู้หนึ่งกระชากร่างสู่อ้อมแขน เธอเห็นหน้าชายผู้นั้นอย่างชัดเจน ชายโบราณที่เธอหลงรูป หลวงพิพิธราชเสนา หลวงพิพิธราชเสนาพาเธอมาฝากไว้กับนางสำลีผู้เป็นพี่สาว เพื่อความปลอดภัยของนางแปลกหน้าผู้ทำหัวใจของหลวง พิพิธราชเสนาหวั่นไหวทันทีที่เห็นหน้า ขณะนั้นกวินต้องเผชิญกับปัญหาที่พัชร์เฟื่องหายไปกับครอบครัวของเธอโดยไม่มีใครเชื่อว่าพัชร์เฟื่องหนีไป กลับคิดว่ากวินวางแผนลักพาตัวหนีไป

พัชร์เฟื่องพยายามไปพบองค์สังฆราชศรี เพื่อหาทางกลับสู่ปัจจุบัน เป็นเหตุให้พระยาอนุชิตราชาจางวางกรมพระตำรวจ พบเธอและชอบเธอในทันที ในขณะเดียวกันเธอก็ได้สร้างศัตรูที่ชื่อพุดซ้อน เนื่องด้วยเสียงโจษจันความงามของนางเฟื่องทำให้สาวงามอย่างพุดซ้อนไม่พอใจ และยิ่งได้รู้ว่าอาศัยอยู่เรือนเคียงกับหลวงพิพิธราชเสนาชายที่เธอหมายปองอยู่ พุดซ้อนจึงออกอุบายใส่ร้ายนางเฟื่องว่าแอบคบกับพระยาอนุชิตจนเป็นที่โจษจัน สร้างความไม่พอใจให้หลวงพิพิธอย่างมาก นางพุดซ้อนก็แสดงความเป็นเจ้าของหลวงพิพิธออกนอกหน้า ทำให้คนทั้งคู่ผิดใจกัน หลวงพิพิธเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดื่มเหล้าจนเมามายและเอ่ยปากบอกรักพัชร์เฟื่อง แต่สายไปเมื่อทางพุดซ้อนบอกให้ทางหลวงพิพิธเตรียมตัวมาสู่ขอ หลวงพิพิธจึงเลี่ยงไปอาสาออกทัพที่นอกพระนคร ด้วยความรักที่มีต่อพัชร์เฟื่อง หลวงพิพิธทนคิดถึงไม่ไหวจึงกลับมาบ้าน แต่เจอพุดซ้อนแถมยุให้พัชร์เฟื่องออกไปเที่ยวกับพระยาอนุชิตทำให้หลวงพิพิธเกิดความหึงหวงจนบอกหมั้นพุดซ้อนต่อหน้าพัชร์เฟื่องด้วยความประชด แถมยังเฆี่ยนตีบ่าวไพร่ที่ไม่ดูแลพัชร์เฟื่อง พัชร์เฟื่องจึงรับหวายแทน หลวงพิพิธตกใจในการกระทำพยายามขอโทษและทายาให้ และเอ่ยสารภาพรัก ทันใดพุดซ้อนมาเห็นจึงวางแผนกับนายจันวางแผนชั่วร้ายกำจัดนางเฟื่อง โดยลวงนางเฟื่องออกจากเรือน และจับลงเรือสำเภาไปขายให้จีนบุนเส็ง แต่หลวงพิพิธและพระยาอนุชิตมาช่วยไว้ทัน

เมื่อเรื่องจบสิ้นพระยาอนุชิตส่งคนมาขอพัชร์เฟื่อง แต่พัชร์เฟื่องเลือกหลวงพิพิธ พิธีแต่งงานถูกจัดขึ้น พร้อมกับสัญญาณแห่งมิติเปิดออก ด้วยความรักพัชร์เฟื่องจึงละทิ้งปัจจุบันและอยู่ที่อดีตเพื่อสร้างครอบครัว เวลาผ่านไปพัชร์เฟื่องมีลูกคนแรกเป็นเด็กชายชื่อกิมจู และกำลังตั้งท้องอ่อนๆ แต่เหตุการณ์ไม่คาดฝัน เกิดเมื่อเสียงเรียกแห่งมิติเปิดขึ้น และเธอเอ่ยปากขานรับไปโดย ไม่รู้ตัว ทำให้เธอต้องจากสามีและลูกที่กำลังอ้าปากรอรับข้าวจากมือแม่อันเป็นที่รักไป พัชร์เฟื่องกลับสู่ปัจจุบัน เธอยอมรับไม่ได้กับการเปลี่ยนแปลง เธอพยายามท่องคาถาให้กลับไปแต่มิติเวลานั้นได้ถูกปิดสนิทด้วยหิน ศักดิ์สิทธ์ที่ถูกทำให้แตกไปแล้ว เธอยังคงพร่ำสวดมนต์ในขณะที่มือยังกำเม็ดข้าวอยู่ จนกระทั่งเจ้าสัวได้นำเอาสมุดบันทึก ที่หลวงพิพิธเขียนถึงหลังเธอจากมาให้อ่าน สติของเธอจึงคืน กลับมาและยินดีรับความจริง ในชะตากรรมที่โหดร้าย


"สู่ฝันนิรันดร" ออกอากาศทุกวันพุธ- พฤหัสบดี เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3

เรื่องย่อละคร รักซ่อนแค้น | ละครใหม่ ละครฮิต

บทประพันธ์: ปณธี ศุภศักดิ์สุทัศน์
บทโทรทัศน์: ปณธี ศุภศักดิ์สุทัศน์
กำกับละคร: ผิน เกรียงไกรสกุล
ดำเนินการผลิต: บริษัท โพลีพลัส เอ็นเตอร์เทนเมนท์ จำกัด

เรื่องย่อรักซ่อนแค้น

การรอคอย 15 ปีเต็มของปภพ ลูกชายของภูวดลเจ้าของโรงแรมก็มาถึง ปภพกลับมาทวงความยุติธรรมให้กับดุจดาว แม่ของเขาที่ป่วยอยู่ใน โรงพยาบาลบ้ามานานกว่าห้าปี ปภพเข้าใจว่าดวงใจแม่ของน้ำหนึ่งเป็นสาเหตุทำให้แม่ของตนเป็นบ้า ปภพจึงแค้นและเกลียดชังสองแม่ลูกคู่นี้มาก ยี่สิบปี ก่อนภูวดลกับมนตรีเป็นเพื่อนรักกันชนิดตายแทนกันได้ แต่วันหนึ่งมนตรีประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเสียชีวิต ภูวดลจึงรับอุปการะภรรยาและลูกของมนตรี เข้ามาอยู่ในบ้าน ทำให้ปภพและน้ำหนี่งในวัยเด็กสนิทกันมากจนกระทั่งปภพถูกส่งตัวไปเรียนเมืองนอก หลังปภพไปเรียน พ่อกับแม่ของปภพทะเลาะกัน เรื่อยมา ภูวดลปรึกษาเรื่องนี้กับดวงใจจนกลายเป็นความรัก ภูวดลห้ามใจตนเองไม่ได้ จึงใช้กำลังทำให้ดวงใจตกเป็นเมียของตน ภูวดลบอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้ดุจดาวรู้ หลังจากที่ดุจดาวรู้ก็พยายามไล่ดวงใจออกจากบ้าน แต่ก็ทำไม่ได้เพราะภูวดลคอยปกป้องอยู่

คืนหนึ่งดุจดาวออกไปเที่ยวแล้วเจอกับมงคล เซลล์แมนหนุ่มนักพนันที่มาหลอกเธอ ดุจดาวไปเที่ยวกับมงคลจนได้เสียกัน ภูวดลรู้จึงสั่งคน ไปซ้อมมงคลทำให้มงคลต้องหนีและหายไป หลังจากนั้นภูวดลก็ไม่เคยมีความสัมพันธ์กับดุจดาวอีกเลย เขาไม่หย่ากับเธอเพราะลูก ทำให้ ดุจดาวเกิดความ เครียดและบ้าในที่สุด ปภพสาน ความสัมพันธ์กับน้ำหนึ่งอีกครั้ง เหมือนไม่เคยมีอะไรเกิดขึ้น เขาขอน้ำหนึ่งแต่งงานตามคำสัญญาที่เขาให้ไว้กับเธอ ทำให้ ภูวดลสงสัยปภพ เพราะปภพ เกลียด ดวงใจ แม่ของน้ำหนึ่งมาก ปริมเพื่อนสาวคนสนิทลูกของเพิ่มลาภ เพื่อนของภูวดลอยากได้ปภพเป็นเขย ไม่พอใจที่ปภพ จะแต่งงานกับน้ำหนึ่งจึงพยายาม ขัดขวางแต่ไม่สำเร็จ ปภพแต่งงานกับน้ำหนึ่ง น้ำหนึ่งตกเป็นของปภพ

หลังจากคืนเข้าหอ ปภพก็เปลี่ยนจากหน้ามือเป็น หลังมือ ปภพบอกว่าเขา แต่งกับเธอเพราะต้องการแก้แค้นแทนแม่ และน้ำหนึ่งต้องตกเป็นทาสของเขาตลอดไป น้ำหนึ่งเสียใจและปวดร้าว มิหนำซ้ำ ปภพ ยังพาปริมเข้ามาทำงานในโรงแรม เพื่อแกล้งน้ำหนึ่ง ภูวดลรู้ว่าดุจดาวแกล้งบ้าเลยหาทางเปิดเผย ดุจดาวกลัวความจริงเปิดเผยเลยให้เพิ่มลาภจ้างคนมาฆ่าภูวดล แต่ภูวดลไม่ตาย เพราะน้ำหนึ่ง กลับมาเห็นคนร้ายเข้า คนร้ายหนีไป น้ำหนึ่งรีบพาพ่อไปส่งโรงพยาบาล แต่ภูวดลกลายเป็นเจ้าชายนิทราเตชาพ่อของตะวัน ทนายประจำตระกูลเปิดพินัย กรรม ภูวดลยกสมบัติให้น้ำหนึ่งทั้งหมด ทำให้ดุจดาวและปภพโกรธมาก ดุจดาวหาทางใส่ร้ายว่าน้ำหนึ่งเป็นคนทำร้ายภูวดล แต่ปภพกลับช่วย เธอเพราะ รู้ว่าเธอไม่ได้ทำ ส่วนดุจดาวจ้างให้คนมาปิดปากน้ำหนึ่ง การไล่ล่าเกิดขึ้น ทำให้ปภพรถคว่ำ ความจำเสื่อม

น้ำหนึ่งพาปภพมารักษาตัวในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง น้ำหนึ่งไม่พาปภพกลับบ้าน เพราะว่าเธอต้องการรื้อฟื้นความทรงจำที่ดีระหว่างเขาสองคน ดุจดาวรู้ว่าปภพไปกับน้ำหนึ่งก็ไม่พอใจ เผยธาตุแท้ออกมาทำให้ดวงใจรู้ว่าดุจดาวไม่ได้บ้า เธอทำร้ายดวงใจสารพัด ระหว่างนั้นความทรงจำ ในวัยเด็กของปภพค่อย ๆ กลับมาแต่ปภพก็ยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร ปภพกลับมาเป็นพี่ชายที่แสนดีของน้ำหนี่ง ความรักของทั้งคู่เริ่มสานต่อ ปภพและน้ำหนึ่ง ตกเป็นของกันและกันด้วยความเต็มใจ

แต่ก็มาหยุดลงเมื่อปริมสืบรู้ว่าปภพและน้ำหนึ่งอยู่ที่ไหน ปริมมาตามปภพกลับบ้าน ปภพกับน้ำหนึ่งจำต้องกลับบ้าน และเผชิญหน้ากับความจริงที่กำลังจะเกิดขึ้น ดุจดาวกับปริมเห็นความเปลี่ยนแปลงของทั้งคู่ ดุจดาววางแผนทำให้ปภพเข้าใจว่าปริมเป็นเด็กผู้หญิงในความทรงจำของปภพ แล้วแผนของดุจดาวก็สำเร็จ ปภพเข้าใจน้ำหนึ่งผิด เขาขอหย่ากับเธอ น้ำหนึ่งเสียใจมาก ปภพไม่เป็นอันทำอะไร เพิ่มลาภกับก้องเกียรติคู่อริกับปภพเลยวางแผนหาทางยักยอกเงินของโรงแรม แต่ทุกอย่างก็ไม่ได้ราบรื่น เมื่อ ปภพความทรงจำกลับมา

ระหว่างนั้น มงคล..หนุ่มนักพนัน ที่เคยมีอะไรกับดุจดาวซมซานกลับมาหลังจากที่หายตัวไป มงคลมาไถเงินดุจดาว ดุจดาวจำต้องยอมเพราะกลัว ปภพรู้ความจริง แต่พอมากเข้า เธอก็ทนไม่ไหว ดุจดาวจ้างคนไปฆ่ามงคล แต่มงคลกลับรอดตายมาได้หวุดหวิดจึงหาทางแก้แค้นดุจดาว ความสัมพันธ์ของ ปภพกับน้ำหนึ่งยังไม่ดีขึ้น เพราะดุจดาวและปริมพยายามใส่ไฟ น้ำหนึ่งยอมทนอยู่ในบ้านเพราะต้องการสืบเบื้องหลังของดุจดาว แต่สุดท้ายดุจดาวรู้เรื่อง จึงวางแผนฆ่าน้ำหนึ่งอีก เรื่องราวความรักความแค้นของปภพกับน้ำหนึ่งจะลงเอยอย่างไร รวมทั้งใครจะเป็นผู้ฉีกหน้ากากความร้ายกาจของดุจดาว

ติดตามชมได้ใน "รักซ่อนแค้น" ออกอากาศทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3

ละคร แม่ครัวคนใหม่ | ละคอนทีวี

เรื่องย่อ แม่ครัวคนใหม่


ทันทีที่เรียนจบจากอเมริกา ล้อมดาว สถาปนิกสาวสวยหัวนอกก็ถูก ยายปทุม พ่อรัตน์และแม่ประภา เศรษฐีใหญ่เรียก ตัวกลับ เพื่อบังคับให้แต่งงานกับ หมอปะรำ มณเฑียรรักษ์ ลูกชายของ คุณนายพิศสมร เศรษฐีนีกรุงเทพซึ่งแต่ก่อนคุณนายเป็นเด็กกำพร้าที่ปทุมส่งเสียให้เรียนจนจบได้แต่งงานกับคุณสง่า มณเฑียรรักษ์ จนได้ดิบได้ดีเป็นคุณนาย ล้อมดาวหัวเสียมากที่ถูกบังคับจึงให้ ทรงสวัสดิ์ เพื่อนสนิทที่เป็นเพื่อนบ้านของหมอปะรำสืบเรื่องหมอปะรำจนได้รู้ว่าคุณนายพิศสมรถูกโกงแชร์จนหมดตัว อีกทั้งหมอปะรำก็มีคู่รักอยู่แล้ว ชื่อ ณัฐริกา ดาราหน้าใหม่อดีตนางพยาบาล ล้อมดาวจึงมีอคติต่อครอบครัวหมอปะรำว่าจะหลอกแต่งงานเพื่อหวังเงินทอง

ล้อมดาวยืนกรานกับครอบครัวว่าตนเองมีแฟนชื่อ ปิแอร์ ดังนั้นจึงจะไม่แต่งงานกับหมอปะรำทำให้ผู้ใหญ่ทั้ง 3 ไม่พอใจจึงยื่นคำขาดว่าถ้าไม่แต่งงานก็ตัดขาดกัน ล้อมดาวไม่สบายใจจึงปรึกษากับพี่ชายทั้ง 2 คน คือ นพคุณ และ โอบบุญ ซึ่งทั้ง 2 ต่างเห็นด้วยกับการแต่งงาน โดยเฉพาะโอบบุญที่เป็นเพื่อนกับหมอปะรำและยังแอบชอบ อวยพร ลูกพี่ลูกน้องกับหมอปะรำ เมื่อไม่มีใครเข้าข้าง ล้อมดาวจึงตัดสินใจหนีออกจากบ้านเพื่อไปพิสูจน์ว่า หมอปะรำที่แท้แล้วเป็นคนดีพอที่จะฝากชีวิตไว้หรือไม่

ที่กรุงเทพล้อมดาวปลอมตัวเป็นสาวหัวฟู ฟันเหยิน มีไฝดำเม็ดเบ้อเริ่มติดที่มุมปาก เข้าไปเป็นแม่ครัวคนใหม่ที่ชื่อ ไฝดำ ในบ้านหมอปะรำเพื่อลักลอบสังเกตหมอปะรำ แต่ตอนกลางวันเมื่อมีเวลาล้อมดาวก็มักจะออกไปรับงานสถาปนิก และบังเอิญพบกับหมอปะรำอยู่บ่อยครั้ง วันหนึ่ง ณัฐริกา มาเที่ยวบ้านหมอปะรำพร้อมกับบอกให้หมอปะรำแต่งงานกับคู่หมั้น หลังจากนั้นให้รีบหย่าเพื่อแบ่งสินสมรส นอกจากนี้ณัฐริกายังแอบจูบหมอปะรำตอนเผลอ ล้อมดาวซึ่งยืนฟังอย่างแค้นเคืองเลยโวยวายทะเลาะกับณัฐริกา คุณนายพิศสมรซึ่งแอบเห็นเหตุการณ์ ออกมาเข้าข้างไฝดำอีก ไฝดำรู้สึกดีต่อคุณนายพิศสมร ประกอบกับทรงสวัสดิ์บอกกับล้อมดาวว่าควรทำดีเพื่อไถ่โทษที่ไปหลอกคุณนาย ล้อมดาวจึงทำตามจนได้กลายเป็นคนสนิทของคุณนายพิศสมร

หมอปะรำเริ่มสังเกตพฤติกรรมแปลก ๆ ของไฝดำอย่างเงียบๆ เพราะเริ่มสงสัยในตัวของไฝดำ ในระหว่างที่คุณนายพิศสมรไม่อยู่บ้าน ณัฐริกามักเข้ามาทำกร่างในบ้านจนมีเรื่องทะเลาะกับไฝดำ หมอปะรำเห็นเข้าจึงต่อว่าไฝดำด้วยถ้อยคำที่รุนแรงมาก ทำให้ล้อมดาวรู้สึกเจ็บแปลบที่หัวใจอย่างบอกไม่ถูกคุณนายพิศสมรกลุ้มหนักเรื่องการหายตัวไปของล้อมดาว หมอปะรำจึงพาแม่ไปพักผ่อนที่หัวหิน ในระหว่างที่เล่นน้ำกันอยู่ แต๋วสาวใช้ในบ้านของหมอปะรำเกิดจมน้ำ ไฝดำจึงรีบไปช่วย หมอปะรำผ่านมาเห็นเหตุการณ์และได้เห็นรอยสักที่ต้นคอของไฝดำ

หมอปะรำเริ่มสงสัยในตัวของไฝดำและล้อมดาวว่าอาจเป็นคนเดียวกัน จึงร่วมมือกับโอบบุญออกอุบายเพื่อที่จะหาตัว ล้อมดาว พอดีล้อมดาวแอบกลับบ้านและได้จัดงานปาร์ตี้แฟนซีกับเพื่อนๆ ในงานโอบบุญแอบชวนหมอปะรำด้วย โดยหมอปะรำแต่งตัวเป็นท่านเคาท์แด็กคิวล่า และได้เต้นรำกับล้อมดาว บังเอิญไฟดับล้อมดาวสะดุดเอื้อมมือไปดึงหน้ากากจึงได้รู้ว่าเป็นหมอปะรำ หมอปะรำดึงตัวล้อมดาวออกมาคุยตามลำพังจนเกิดปะทะคารมกัน เรื่องที่ให้ ล้อมดาวยอมรับความจริงว่าคือไฝดำ ล้อมดาวปฏิเสธ หมอปะรำจึงแกล้งจะปล้ำล้อมดาวเบี่ยงตัวหลบ หมอปะรำจึงเห็นรอยสักที่ต้นคอ แต่ล้อมดาวปฏิเสธจึงถูกหมอปะรำจูบ

เมื่อกับไปกรุงเทพ หมอปะรำและล้อมดาวทะเลาะกันอีก หมอโกรธจะจูบล้อมดาวแต่บังเอิญคุณนายมาเห็นเข้า ล้อมดาวได้ทีจึงขอลาออก คุณนายพิศสมรเสียใจมากจนล้มป่วยเฝ้าตำหนิลูกชาย แต่หมอปะรำก็ไม่กล้าบอกความจริงว่าคืออะไร หมอปะรำไปตามล้อมดาวที่บ้านทรงสวัสดิ์ ณัฐริการู้เรื่องที่ไฝดำกับล้อมดาวเป็นคนๆเดียวกัน ณัฐริกาจึงบอกกับคุณนายพิศสมรและพาไปเห็นกับตา พอไปถึงคุณนายพิศสมรได้ยินล้อมดาวต่อว่าตนเองว่าหวังเงิน คุณนายได้ยินก็ผิดหวังและเสียใจมากบอกล้อมดาวว่าตนไม่เคยคิดอย่างนั้น ทำให้ล้อมดาวรู้สึกผิดต่อคุณนายพิศสมรเป็นอย่างมาก

จังหวะเดียวกันปิแอร์ตามหาล้อมดาว แล้วได้ขอแต่งงาน นาทีนั้นล้อมดาวรู้ตัวว่าไม่ได้รักปิแอร์ คุณนายเมื่อรู้ข่าวจึงล้มเลิกการแต่งงานของหมอปะรำและล้อมดาว ณัฐริกาจึงถือโอกาสนี้ให้ข่าวว่าจะแต่งงานกับหมอปะรำ ล้อมดาวรู้ข่าวก็เสียใจแล้วประชดด้วยการจะแต่งงานกับปิแอร์ แต่บังเอิญล้อมดาวเห็นปิแอร์กำลังกุ๊กกิ๊กกับหนุ่มหล่อจึงเสียใจแล้ววิ่งเตลิดไป หมอปะรำจึงพาล้อมดาวไปอยู่บ้านสวนและแกล้งล้อมดาวต่าง ๆ นานา ล้อมดาวไม่ยอมแพ้จนเกิดปากเสียงกันอย่างรุนแรง หมอปะรำโกรธที่ล้อมดาวคิดแต่ว่าครอบครัวตนหวังแต่เงิน แต่ในที่สุดความรักที่ซ่อนอยู่ในใจของทั้งคู่ ก็ทำให้ทั้งคู่เข้าใจและเป็นของกันและกันในที่สุด

เรื่องราวเหมือนจะลงเอยด้วยดี แต่กลับไม่ง่ายอย่างที่คิดเมื่อคุณนายพิศสมรยังไม่หายโกรธล้อมดาว แม้ล้อมดาวจะขอโทษและ ยอมเป็น แม่ครัวให้ตลอดชีวิตโดยไม่คิดเงิน แต่คุณนายพิศสมรก็ไม่สนใจไยดีล้อมดาวแม้แต่หางตา ล้อมดาวจะแก้ปัญหาอย่างไรถึงจะทำให้คุณนายพิศสมรยอมรับล้อมดาวเป็นสะใภ้ และสามารถแต่งงานกับหมอปะรำได้

ละคร ลิขิตกามเทพ | เรื่องย่อ ละคอนทีวี

เรื่องย่อ ลิขิตกามเทพ


พินิจนัย หนุ่มหล่อลูกชายของ บดินทร์ พ่อเลี้ยงจอมเจ้าชู้แห่งเมืองตาก เขากำพร้าแม่ตั้งแต่เด็กมี จินดา แม่บ้านกับ สุจิตรา น้าสาวที่หวังว่าสักวันจะเปลี่ยนสถานะเป็นแม่คอยดูแล พินิจนัยต้องดูแลกิจการสารพัดแทนพ่อ และด้วยนิสัยที่ชอบเก็บตัว เงียบขรึม เอาแต่ใจตัวเอง และไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลย เนื่องจากเคยถูก เภรี ลูกสาวเศรษฐีหักอก เพราะเข้าใจผิดว่าเขาเป็นหนุ่มบ้านนอกยากจน


ด้วยเหตุนี้ทำให้พ่อเลี้ยงบดินทร์กลัวว่าลูกชายจะกลายเป็นเกย์กับ ภูษิต เพื่อนรักที่สนิทกันมากของพินิจนัย จึงตัดสินใจจะจับคู่พินิจนัยกับลูกสาวของ คุณนายจันทร์เพ็ญ เพื่อนสนิทตั้งแต่สมัยเด็ก ซึ่งก็เข้าทางคุณนายจันทร์เพ็ญพอดี โดยนัดกันว่าจะพาลูกชายมาเลือกคู่ที่กรุงเทพฯ พินิจนัยรู้ก็รีบเผ่นหนี ตามภูษิตเข้ากรุงเทพฯ ทันที ด้านภูษิตเองก็อยากจะให้เพื่อนรักเจอรักใหม่เสียที จึงพาพินิจนัยไปเที่ยวผับ เผื่อเจอสาวๆ สักคนจะได้เลิกเกลียดผู้หญิง

กานพลู สาวสวยน่าสงสารอายุ 25 ปี อาศัยอยู่กับ คุณนายจันทร์เพ็ญ ป้าแท้ๆ ที่เลี้ยงดูมาตั้งแต่เกิด เพราะแม่ของกานพลูผูกคอตายหนีความอับอายจากการท้องไม่มีพ่อ กานพลูทำงานบ้านราวกับคนใช้ และยังถูกโขกสับจาก ภัสสร และพรรณทิพา พี่สาวทั้ง 2 คนลูกของป้า มีเพียง พิบูลย์ ลูกชายคนเล็กของคุณนายคนเดียวเท่านั้นที่คอยปกป้องกานพลู
แต่กลับถูกสองสาวหาว่ากานพลูจะจับพิบูลย์เพื่อไต่เต้ามาเป็นน้องสะใภ้ของพวกเธอ กานพลูมีคนรักชื่อ ภาดา เป็นคนมักใหญ่ใฝ่สูงทำงานที่เดียวกัน กานพลูเก็บเงินซื้อคอนโดแต่ผ่อนใช้ชื่อภาดา ส่วนภาดาก็ต้องการไต่เต้าจึงฉวยโอกาสขณะที่ตามเภรีลูกเจ้าของบริษัทไปประชุมที่ต่างจังหวัด โดยการมอมเหล้าแล้วปล้ำ เภรีเองก็ชอบภาดาเป็นทุนเดิมอยู่แล้วจึงยินยอม วันหนึ่งกานพลูไปเห็นการ์ดเชิญให้ไปงานฉลองหมั้นของภาดากับเภรี

กานพลูเสียใจมากจนเกือบฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่ บุตรา เพื่อนสนิทตามมาพบและพาไปเลี้ยงวันเกิดตนเองที่ผับ ซึ่งเป็นที่เดียวกับที่พินิจนัยทาเที่ยว พินิจนัยกับภูษิตดื่มแต่น้ำผลไม้ ส่วนกานพลูดื่มเหล้ายอมใจจนเมามาย ขณะที่บุตรากับเพื่อนคนอื่นๆ พากันไปเต้นรำ กานพลูเดินเปะปะจนเกือบถูกพวกวัยรุ่นฉุดโชคดีที่พินิจนัยช่วยไว้ได้ทัน ภูษิตเห็นก็เข้าใจผิดว่าพินิจนัยหิ้วหญิงมาได้จึงไล่ให้พากลับโรงแรมด้วย

ด้านบุตราก็คิดว่ากานพลูหนีกลับบ้านไปก่อน พินิจนัยไม่รู้จะทำอย่างไรดี เพราะขับรถวนเวียนตามทางที่กานพลูบอกจนใกล้เช้าก็ไม่ถึงสักที พินิจนัยจึงตัดสินใจจอดรถรอจนกว่ากานพลูจะสร่างเมาจนเผลอหลับไปอีกคน รุ่งเช้ากานพลูตกใจตื่นเห็นตัวเองอยู่ในรถกับชายแปลกหน้า แถมสภาพตัวเองก็ดูไม่ได้จึงเข้าใจว่าถูกพินิจนัยข่มขืน เรื่องลุกลามจนถึงตำรวจ พินิจนัยจึงอ้างว่าเขากับกานพลูเป็นแฟนกัน
แล้วกอดจูบกานพลูโชว์ตำรวจ ด้านกานพลูก็กลัวตกเป็นข่าวหน้าหนึ่งเหมือนกันเลยปล่อยเลยตามเลย

พินิจนัยเบื่อความวุ่นวายที่กรุงเทพฯ จึงขับรถกลับบ้านที่ตาก ซึ่งก็สวนทางกับพ่อเลี้ยงบดินทร์ที่มากรุงเทพฯ เพื่อมาพบหน้าว่าที่ลูกสะใภ้ คุณนายจันทร์เพ็ญกับลูกสาวผิดหวังที่ไม่ได้เจอลูกชายพ่อเลี้ยง ด้านพ่อเลี้ยงก็ติดใจอยากได้ลูกสาวคนใดคนหนึ่งของจันทร์เพ็ญมาเป็นภรรยา

แต่เปลี่ยนใจเอาดื้อเมื่อเขาเห็นกานพลู คุณนายยอมยกกานพลูให้แต่โดยดี เพื่อแลกกับเงินห้าล้านบาทกับเครื่องเพชรและเงินเดือนประจำ พินิจนัยไม่พอใจเมื่อรู้ว่าพ่อของเขาจะแต่งงานกับหลานสาวเพื่อนตัวเอง แต่ก็แอบห่วงพ่อเพราะกลัวโดนหลอก ประกอบกับสุจิตราและ สาวิตรี เพื่อนของสุจิตรายุยงจนทำให้พ่อลูกทะเลาะกัน และเมื่อถึงวันแต่งงานพินิจนัยก็เจอกับกานพลูทั้งคู่ต่างตกใจ

เพราะไม่คิดว่ากานพลูจะต้องมาเป็นแม่เลี้ยงของผู้ชายที่ข่มขืนตนเอง ส่วนพินิจนัยก็ถูกภัสสรกับพรรณทิพาเป่าหูว่ากานพลูผ่านผู้ชายชื่อภาดามาแล้ว ก็ยิ่งทำให้พินิจนัยมีอคติกับกานพลูมากขึ้น เมื่อถึงเวลาเข้าหอกานพลูโวยวายไม่ยอมจนบดินทร์เบื่อเลยเรียกอีหนูมานอนแทน ส่วนกานพลูก็หนีไปนอนกับจินดาพ่อเลี้ยงแต่งงานได้เจ็ดวันก็หัวใจวายตาย กานพลูจึงกลายเป็นแม่ม่ายทรงเครื่อง และเป็นคู่กัดกับลูกเลี้ยงอย่างพินิจนัย

กานพลูมางานแต่งงานของภาดาโดยมีพินิจนัยตามติดมาร่วมงานด้วย เมื่อทั้งสี่คนได้พบกันต่างคนต่างตกใจ เพราะเภรีพึ่งรู้ว่าพินิจนัยคือเศรษฐีตัวจริง ส่วนภาดาก็ก็อึ้งในความสวยขึ้นและรวยขึ้นของกานพลู ภาดาจึงตัดสินใจทิ้งเภรีเพราะเขาได้ปอกลอกเภรีจนหมดตัว ส่วนเภรีก็คิดจะคืนดีกับพินิจนัยเลยใส่ความกานพลู จนพินิจนัยยิ่งเกลียดกานพลู วันหนึ่งพินิจนัยกับกานพลูเกิดได้เสียกันจนกานพลูท้อง
แต่ทุกคนเข้าใจว่าท้องกับพ่อเลี้ยง มีแต่จินดาเท่านั้นที่รู้ความจริงทั้งหมด เภรีแค้นกานพลูจึงดักยิงแต่พินิจนัยก็ช่วยเอาไว้ทัน

กานพลูแค่หกล้มแต่ต้องผ่าท้องเอาลูกสาวออกมา พรรณทิพาแค้นเลยจ้างแก๊งจับเด็กไปขายให้ไปขโมยลูกกานพลู แต่พินิจนัยก็ช่วยไว้ได้ทัน กานพลูจึงตัดสินใจจากไปเพื่อความสบายใจของพินิจนัย แต่ก็ได้พาหัวใจของพินิจนัยไปด้วย จินดาสงสารจึงบอกความจริงทั้งหมด พินิจนัยเมื่อรู้ว่าเด็กคือลูกสาวของตนเองก็ยิ่งเสียใจ ตามหาแทบพลิกแผ่นดิน ภาดาแค้นจึงสมคบกับเภรีอีกครั้ง ภาดาไปลอบยิงพินิจนัยอาการสาหัส แต่ภาดากับเภรีก็โดนตำรวจจับ จินดาขอร้องให้กานพลูไปดูแล ภูษิตก็เข้ามาบอกความจริงเรื่องในผับคืนนั้นว่าพินิจนัยต่างหากที่ช่วยกานพลูไม่ให้โดนข่มขืน ในที่สุดกานพลูกับพินิจนัยก็ปรับความเข้าใจกัน ทั้งสองตกลงไปอยู่ในไร่ที่กานพลูซื้อไว้อยู่กับลูกแห่งนั้นอย่างสงบตลอดไป