บัวผัน(วรัทยา นิลคูหา) หญิงสาวชาวบ้านพบไข่ประหลาดฟองโตสีขาวนวลกลิ้งอยู่บนพืนทราย ริมแม่น้ำโขง จึงเก็บไข่ฟองนั้นกลับบ้าน โดยไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้กินไข่ประหลาดนั้น เมื่อทองมี(ปัทมาภรณ์ รัตนภักดี)เพื่อนรักแวะมาหาที่บ้านจึงชวนกินไข่ประหลาดด้วยกัน แต่ทองมีไม่กินเพราะกินข้าวมาแล้ว บัวผันจึงกินคนเดียวจนหมดฟอง และเกิดอาการท้องร้อนวูบวาบ บัวผันบอกทองมีว่าจะต้องไปดื่มน้ำในลำน้ำโขงจึงหาย ทองมีตกใจจึงตะโกนร้องให้คนช่วย ทิดเคน(กฤษฏี พวงประยงค์)หนุ่มชาวบ้านกระโดดล็อกตัวไว้แต่บัวผันก็สะบัดหลุดออกอย่างง่ายดาย ทุกคนลงความเห็นว่าผีเข้าบัวผันแน่ เฒ่าเชียงหล้า(แรม วรธรรม)จึงรีบขอขมาผู้สิงร่างบัวผัน แต่ผู้สิงร่างไม่ยอมแล้วก็ลุยน้ำออกไปกลางลำน้ำโขง ทิดเคนกระโจนลงไปช่วย ทั้ง2จมลงไปใต้น้ำด้วยกัน ทันใดนั้นก็เกิดก้อนสีดำขนาดใหญ่ลอยมาและเปลี่ยนเป็นฝูงผีเสื้อนับล้านตัว ไม่พอเท่านั้นยังมีฝูงคางคกนับล้านตัวว่ายน้ำอยู่ในลำน้ำโขงจนมืดสนิท เหมือนจะเกิดอาเพศ ทองมีกรีดร้องด้วยความดีใจที่เห็นบัวผันโผล่ขึ้นมาเหนือน้ำ และตะโกนเรียกให้กลับเข้าฝั่ง แต่บัวผันไม่กลับค่อยๆจมหายไป | |||
| |||
อีกด้านหนึ่ง นายแพทย์อัคนี(ศุกลวัฒน์ คณารศ)ผู้เชี่ยวชาญและศึกษาวิชาจิตเวชศาสตร์ กำลังนั่งขัดสมาธิบนเรือกลางลำน้ำโขง กับสมัย อ่อนสา(ชูศรี เชิญยิ้ม)เพื่อพิสูจน์สิ่งลี้ลับ แต่อยู่ๆ สมัยก็หมดสติ ลุงจันดี(นึกคิด บุญทอง)คนพายเรือจึงตะโกนเรียกหมออัคนีแต่ก็นิ่งเฉยเหมือนไม่ได้ยิน แล้วลุงจันดีก็ร้องโวยวายออกมาด้วยความตกใจว่าเห็นผี และพยายามรีบพายเรือหนี แต่กลับเห็นเรือลำหนึ่งลอยมาใกล้ๆ ซึ่งในเรือมีหญิงสาวสวยชื่อบัวผัน ชวนให้ลุงจันดีลงเรือของเธอ เมื่อแกถูกตัวบัวผันก็รู้สึกถึงความเยียบเย็นแล้วร่างบัวผันก็กลายเป็นโครงกระดูก ซึ่งเป็นภาพนิมิตรของเจ้าแม่ทอหูก(มรกต กิตติสาระ)ลุงจันดีจึงรีบกราบขอขมาลาโทษที่ได้ล่วงเกินและขอให้เจ้าแม่ไว้ชีวิต | |||
| |||
หมออัคนีตัดสินใจเดินทางไปดู แต่ระหว่างการเดินทางถูกลอบวางยาพิษจากอุ่นเงินและเจ้าวรวงศ์ แต่หมออัคนีไหวตัวทันอมรางจืดยาแก้พิษเอาไว้ ทั้งสองคนไม่รู้ นำร่างหมออัคนีใส่กระสอบถ่วงน้ำ หมออัคนีใช้มีดพับตัดกระสอบและว่ายฝ่าสายน้ำที่เย็นขึ้นสู่ผิวน้ำ แต่น้ำก็พัดจมลงอีก คราวนี้หมออัคนีไปพบกับพญาจันหัวจระเข้ ที่เป็นบริวารของเจ้าแม่ทอหูก จึงถูกนำตัวไปขังไว้ในคุก พญาหนองหารหลวง(ภูธฤทธิ์ พรหมบันดาล)ล่วงรู้เข้าจึงสั่งให้ อสุรกายนฤจักษ์ กับ นางมลินมุขี เข้าไปชิงตัวหมออัคนีมา ทั้ง2แปลงร่างเป็นพายุลมดำ หอบหมออัคนีไปให้พญาหนองหารหลวง แล้วสั่งต้มหมออัคนี หมออัคนีไม่เห็นทางรอดจึงกำหนดปณิธาณขอให้ดวงจิตสะอาดบริสุทธิ์ พอจบคำอธิฐานลมหนาวแห่งความตายก็พัดมา ก็เกิดแสงสว่างสีทองพันรอบตัวแล้วดึงลอยไปในอากาศ มารู้สึกตัวอีกครั้งว่าตัวเองกำลังว่ายน้ำอยู่ในความมืด แต่ชั่วแวบเดียวก็ต้องสะดุ้งเมื่อเห็นสาวงามแต่งกายชุดสาวพื้นเมืองเดินเข้ามาหาและชวนให้ไปพักผ่อนที่บ้านหมออัคนีปฏิเสธเธอบอกว่าชื่อบัวผัน ทำให้นึกถึงหญิงสาวที่จมแม่น้ำโขงหายไปหลังจากนั้นก็มุ่งหน้าเดินเข้าไปในเมือง | |||
| |||
หมออัคนีต้องการพิสูจน์ว่าบัวผันเป็นตัวจริงหรือเปล่า เลยตามไปในหมู่บ้านลับแลและก็ได้พูดคุยกัน มารู้สึกตัวอีกครั้งก็พบว่าตนเองอยู่ในป่าช้า จึงเดินทางกลับไปที่โรงแรมและได้รับจดหมายจากเจ้านางโคมคำฝากไว้เพื่อขอพบ หมออัคนีไปเจอเจ้านางโคมคำเพื่อที่จะสอบถามรายละเอียดต่างๆ หลังจากนั้นหนานหล้า(ทองขาว ภัทรโชคชัย)เอาจดหมายที่มีข้อควมสั้นๆจากสัปเหร่อหนูที่มีข่าวด่วนให้มาพบที่ป่าช้า หมออัคนีสงสัยว่าเจ้าแม่ทอหูกมีปัญหาอะไรกับเขา เจ้าแม่ทอหูกไปจับตัวเจ้านางโคมคำมาเป็นตัวประกัน และสั่งให้หนานหล้าไปบอกหมออัคนีให้มาพบ ไม่งั้นเจ้านางโคมคำตาย หนานหล้าพาไหมสี(สิชา ศรีทองสุข)ไปหาหมออัคนี เพื่อบอกความจริงทั้งหมด แล้วก็ขอร้องให้บัวผันช่วยพาไปหาเจ้าแม่ทอหูก ซึ่งเจ้าแม่ทอหูกสิงร่างบัวผันอยู่แล้วสบโอกาสจึงพาลงไปเมืองบาดาล แล้วมาพบกับพ่อปู่ฤษี พ่อปู่ให้หมออัคนีถอดแหวนปะการังออก แต่หมออัคนีไม่ถอดเพราะพระภิกษุให้สวมไว้ที่นิ้วกลางข้างซ้ายตลอดชีวิต เจ้าแม่ทอหูกในร่างบัวผันก็ช่วยเสริมแกมบังคับ หมออัคนีจึงยอมถอดและโยนทิ้งลงไปในสระน้ำไฟจึงลุกขึ้น พ่อปู่โกรธมากที่มาทำลายบ่อเพลิงกรดศักดิ์สิทธิ์ พ่อปู่จึงสั่งให้เจ้าแม่ทอหูกโยนหมออัคนีลงสระไฟกรด | |||
| |||
| |||
หมออัคนีรู้ทันทีว่านี่ไม่ใช่บัวผัน จึงดิ้นสุดแรงทำให้เจ้าแม่ทอหูกพลัดตกลงไปในสระไฟกรดแทน ซึ่งจริงๆแล้วคนที่ตายก็คือบัวผันนั่นเอง แต่สุดท้ายบัวผันก็ฟื้นขึ้นมาใหม่ เพราะหลวงพ่อจูมมาช่วยไว้ หลวงพ่อจูมปรากฏกายทิพย์ออกมาเพื่อช่วยทั้งหมดเอาไว้ได้สำเร็จ สุดท้ายเจ้าแม่ทอหูกก็ต้องไปเวรกรรมที่สร้างไว้กับผู้อื่น หมออัคนีพาบัวผันกลับมาที่เมืองมนุษย์ ชาวบ้านรู้ความจริงทั้งหมดก็มั่นใจแล้วว่าเหตุการณ์ร้ายๆที่ผ่านมาไม่ใช่ฝีมือบัวผัน หมออัคนีกับบัวผันได้ครองรักกันสมกับที่รอคอยกันมานาน ขณะเดียวกันหมออุ่นเงินกับเจ้านางโคมคำก็ปรับความเข้าใจและครองรักกันเช่นกัน ส่วนเจ้าวรวงศ์ตัดสินใจออกบวชในที่สุด | |||
0 comments:
Post a Comment